http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-08-14

สร้างคลื่นโฆษณาด้วยก้อนหิน โดย จอห์น วิญญู

.

สร้างคลื่นโฆษณาด้วยก้อนหิน
โดย จอห์น วิญญู spokedark.tv www.facebook.com/spokedarktv
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1669 หน้า 79


ตอนแรกผมตั้งชื่อเรื่องว่า "การโฆษณาด้วยผู้มีอิทธิพล" แต่ชื่อเรื่องมันดูมาเฟี้ยมาเฟีย อิอิ
แถมแค่นั้นนั่นมันก็แค่ชื่อย่อด้วยนะ เพราะที่ตั้งใจไว้ตอนแรกยาวกว่านั้นอีก คือ "การโฆษณาด้วยผู้มีอิทธิพลทางความคิด"
แต่ยัง ?
ชื่อเรื่องก็ยังไม่เคลียร์สาใจ
จริงๆ แล้วชื่อเต็มๆ คือ "การโฆษณาด้วยผู้มีอิทธิพลทางความคิดในโลกอินเตอร์เน็ต"
สุดท้ายแล้วเปลี่ยนดีกว่า เช้ยเชย



คือเรื่องของเรื่องคือช่วงนี้เนี่ยเทรนด์การโฆษณาด้วยสื่อสังคม (Social Media) ในอินเตอร์เน็ตค่อนข้างแพร่หลายครับ ที่เห็นกันมากก็ใน Twitter, Facebook, Instagram พวกที่แบ่งปัน (Share) ข้อมูลตัวหนังสือ, ภาพ, เสียง ต่อๆ ไปยังเพื่อนๆ ได้นั่นแหละครับ
การโฆษณาด้วยสื่อสังคมในอินเตอร์เน็ตมีหลายรูปแบบครับ แต่หัวใจของมันคือการทำยังไงให้เนื้อหาโฆษณานั้นๆ ถูก Share ต่อไปได้กว้างไกลมากที่สุด เหมือนโยนก้อนหินลงไปในน้ำให้คลื่นแพร่กระจายออกไปเป็นวงๆ ได้ไกลๆ นั่นแหละครับ

สมัยนี้ใครๆ ก็เป็นเจ้าของสื่อเองได้ในโลกอินเตอร์เน็ตครับ เพราะเจ้าของผลิตภัณฑ์ผู้ลงโฆษณาเดี๋ยวนี้เขาก็มักจะมองกันที่จำนวนแฟนคลับหรือผู้ติดตามอย่างเป็นรูปธรรมของบุคคลที่เขาจะใช้เป็นสื่อโฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์ ผู้ติดตามอย่างเป็นรูปธรรมในที่นี้ผมหมายถึงจำนวน Follower ครับ ถ้าเปรียบเทียบกับสมัยก่อนก็เหมือนผู้ที่บอกรับนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์นั่นแหละครับ 
เปรียบกันแล้วในกรณีของสื่อสังคมออนไลน์ Follower ก็จะได้รับข่าวสารโดยตรงจาก บุคคล/ดารา/ศิลปิน/องค์กร ที่เขาติดตามอยู่นั่นเองครับ
ประเด็นวันนี้คืออะไรกันแน่วะ
แป๊บนะ ?


อ๋อ !!!

คือผมอ่ะจะบอกว่าทุกวันนี้ผู้ลงโฆษณานิยมใช้บุคคลที่ใช้เว็บสื่อสังคมออนไลน์แล้วมี Follower เยอะๆ นี่แหละเป็นตัวจุดกระแสในการโฆษณาเรื่องต่างๆ ที่ผู้ลงโฆษณาเค้าคิดกันขึ้นมา เป็นตัวเปิดให้เรื่องที่ผู้ลงโฆษณาเค้าอยากจะสื่อสารมีคนพูดต่อๆ กันไปเยอะๆ เป็นวงกว้างออกไป
ทำให้คนที่มี Follower เยอะๆ ในสื่อสังคมออนไลน์สามารถทำตัวเป็นสื่อโฆษณาและสร้างรายได้จากการที่มีคนติดตามเยอะๆ ได้ เพราะยิ่ง Follower เยอะ คนคนนั้นก็เป็นเหมือนก้อนหินที่ใหญ่และมีน้ำหนักมาก เมื่อเขวี้ยงลงไปในน้ำก็เกิดคลื่นและแรงกระเพื่อมไปได้ไกล

ผู้ลงโฆษณาที่มีตังค์มาก ก็สามารถซื้อหินก้อนใหญ่ๆ หนักๆ มาทุ่มลงไปในน้ำได้มาก ส่งผลให้โฆษณาของเขาแพร่กระจายเป็นวงกว้างและไกล
แต่ก็แล้วแต่กลยุทธครับ ผู้ลงโฆษณาบางรายเลือกซื้อก้อนหินก้อนเล็กๆ ที่เป็นสื่อเฉพาะกลุ่ม แต่สื่อเฉพาะกลุ่มหลายๆ ก้อน เขวี้ยงลงไปในน้ำพร้อมๆ กัน เน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ ก็อาจทำให้เกิดวงคลื่นแพร่กระจายออกไปได้เช่นกัน 
แต่ปัจจัยการเกิดคลื่นแห่งการบอกต่อที่เรียกว่าการ Share นี้ ไม่ใช่อยู่ที่ก้อนหินเล็กหรือใหญ่เสมอไป เนื้อหาของสารที่ใช้ในการโฆษณาก็มีส่วนสำคัญ 

ถ้าเนื้อหาของโฆษณาโดนใจคนหมู่มากผู้ลงโฆษณาอาจใช้เงินเพียงน้อยนิดในการซื้อก้อนหินก้อนเล็กๆ เป็นตัวเปิดลูกคลื่น
ถ้าเนื้อหาโดนใจ อาจจะมีก้อนหินก้อนอื่นๆ ที่ไม่ได้รับเงินจากผู้ลงโฆษณาแต่ชอบในเนื้อหาของโฆษณา ช่วยกันพุ่งตัวลงไปกระแทกคลื่นสร้างกระแสให้โดยไม่คิดเงินก็เป็นได้



สําหรับ Follower ผู้รับสารโฆษณาสมัยนี้เขาก็รู้แหละครับว่าอันไหนโฆษณาแฝง อันไหนโฆษณาตรงๆ คนลงโฆษณาต้องสรรหาวิธีลงโฆษณาที่ไม่ดูถูกสติปัญญา Follower หรือเรียกง่ายๆ ว่าอย่าหลอกเขา ให้ซื่อสัตย์กับเขา เพราะผู้บริโภคข่าวสารในอินเตอร์เน็ตเขามีอำนาจอยู่ในมือนั่นคือในเม้าส์ 
เจ้าของสื่อในเน็ตผู้ครอบครองสื่อของตัวเองที่มี Follower ติดตามตนเองต้องอย่าลืมว่า ที่คนมาชอบมาติดตามก็เพราะผลงานที่เราเคยสร้างไว้ในอดีตและผลงานที่เรากำลังทำอยู่ในปัจจุบัน

การหวังกอบโกยรายได้จากการโฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์โดยไม่สนใจ Follower ของตัวเอง ทำตัวเป็นก้อนหินพุ่งลงน้ำตามเงินสั่งโดยไม่ยั้งคิด 
ก่อให้เกิดคลื่นรบกวนไปยังเหล่า Follower มากเกินไป พวกเขาก็จะเลิกติดตามในที่สุด 

ถึงวันนั้น ก้อนหินก้อนใหญ่ๆ ที่ข้างในกลวงโบ๋  
พอเขวี้ยงลงน้ำแล้วก็ไม่อาจสร้างแรงกระเพื่อมอะไรได้อีก
เพราะไม่มีน้ำหนัก

อีกต่อไป ?



.