โดย นพมาส แววหงส์ คอลัมน์ ภาพยนตร์
ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1669 หน้า 87
กำกับการแสดง Len Wiseman
นำแสดง Colin Farrell
Kate Beckinsale
Jessica Biel
Bryan Cranston
Bill Nighy
ค.ศ.2084 โลกผ่านวิกฤตการณ์ทำลายล้างจนสารเคมีกระจายไปทั่ว เหลือพื้นที่บนโลกที่ยังอยู่อาศัยได้สำหรับมนุษย์แค่บริเวณกระหยิบมือ มีเพียงอาณาบริเวณการปกครองที่เรียกว่า "สหรัฐบริเตน" ในซีกโลกหนึ่ง (แถวๆ สหราชอาณาจักรปัจจุบัน) และ "อาณานิคม" ในอีกซีกโลก (แถวๆ ออสเตรเลีย)
การคมนาคมเชื่อมระหว่างซีกโลกทั้งสอง ทำได้ด้วยวิธีเดียว--ไม่ใช่โดยทางบก ทางอากาศหรือทางน้ำ--แต่โดยมุดดินผ่านใจกลางโลกไปโผล่อีกด้าน ด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่เรียกว่า The Fall ซึ่งเป็นเหมือนรถไฟที่ดิ่งลงผ่านศูนย์กลางโลก ผ่านการสลับขั้วของแรงดึงดูดโลก ไปโผล่ขึ้นพื้นผิวโลกอีกฝั่ง
ดักลาส เควด (คอลิน ฟาร์เรล) เป็นคนงานก่อสร้างที่มีถิ่นที่อยู่ในอาณานิคม ซึ่งห่างไกลจากความเป็นอภิสิทธิชน เขาทำงานก่อสร้างที่อยู่คนละซีกโลก ต้องเดินทางด้วย "รถไฟร่วง" นี้ไปสหรัฐบริเตนทุกวันกับเพื่อนคู่หูชื่อแฮรี่ (โบคีม วูดไบน์)
เขารู้สึกว่าชีวิตความเป็นอยู่ซ้ำซากจำเจขาดสีสัน อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ซอมซ่อในเมืองที่แออัดด้วยตึกรามบ้านช่อง แม้จะมีภรรยาคนสวยของเขาชื่อ ลอรี (เคต เบกคินเซล) ทำงานเป็นตำรวจคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
ดักลาสมีความฝันซ้ำๆ ซากๆ ถึงสาวสวยคนหนึ่งที่ร่วมการผจญภัยหนีการไล่ล่าหัวซุกหัวซุนและพลัดพรากกันไปในตอนจบ
โลกอนาคตสำหรับคนใช้แรงงานที่ใช้ชีวิตจำเจอยู่ในสลัมในเมืองอันมีทัศนียภาพแห้งแล้งสุดขอบฟ้า ทำให้เกิดธุรกิจบริการ "ความจริงเสมือน" ที่ใส่ความจำลงแก่ลูกค้าที่แสวงหาความสนุกตื่นเต้นจากชีวิตมายาที่เทคโนโลยีสามารถสรรค์สร้างแก่มนุษย์ที่ต้องการหลีกหนีไปจากสภาพอันชวนหดหู่
ดักลาสสนใจจะใช้บริการของบริษัทที่ชื่อ Rekall นี้ เพื่อแสวงหาความบันเทิง หรือเป็นวันพักผ่อนที่ไม่อาจมีได้ในชีวิตจริง มิไยที่แฮรี่เพื่อนสนิทจะออกปากห้ามปรามโดยให้เหตุผลว่าการเข้าไปยุ่งกับระบบการทำงานของสมองแบบนี้จะมีผลทำลายเซลส์สมอง และการปรับเปลี่ยนความจำอาจทำให้สติวิปลาสไปก็เป็นได้
ทว่า ความอยากรู้อยากเห็นอันสุดจะหักห้ามใจได้ทำให้ดักลาสเข้าไปติดต่อขอซื้อบริการจากบริษัทที่ฝังความจำอันน่าตื่นเต้นตามความต้องการของลูกค้าให้
เทคโนโลยีความจริงเสมือนนี้จะมอบประสบการณ์เสมือนให้แก่ผู้รับบริการ ซึ่งจะทำการฝังความจำอะไรก็ได้ลงไปในหัวของมนุษย์ในโลกอนาคต
ดักลาสเลือกชีวิตของจารชนเป็นประสบการณ์น่าตื่นเต้นที่จะสนองความใฝ่ฝันของเขาในครั้งนี้ แต่ยังไม่ทันไร โปรแกรมเมอร์ที่ให้บริการก็บอกว่าเกิดความผิดพลาดขึ้นในกรณีของดักลาส ซึ่งถูกลบความจำในชีวิตจริงไป
ดักลาสพบตัวเองถูกมุ่งร้ายหมายขวัญโดยเหล่านักสังหารมืออาชีพ และต้องหนีหัวซุกหัวซุน ครั้นกลับบ้านไปพบลอรีผู้เป็นภรรยา ลอรีก็กลับกลายเป็นฝ่ายตรงข้าม และไล่ล่าเขาไม่ยอมลดละ
หญิงสาวในความฝันกลายมาเป็นผู้ร่วมทางในการหลบหนีจากการไล่ล่า เมลินา (เจสซิกา บีล) บอกว่าเขาไม่ได้ชื่อ ดักลาส เควด แต่เป็นสายลับมือฉกาจชื่อเฮาเซอร์
คำพูดที่ออกจากปาก คอลิน ฟาร์เรลล์ ในบทเดียวกันนี้คือ "If I"m not me, then who the hell am I?" ซึ่งเป็นข้อใหญ่ใจความตามสมมติฐานของหนังที่กำหนดให้โลกอนาคตใช้ความจริงเสมือนเข้ามาปะปนกับความจริงในชีวิตจนไม่มีใครรู้อีกแล้วว่าอะไรจริง อะไรเป็นมายา
Total Recall สร้างครั้งแรกใน ค.ศ.1990 ด้วยฝีมือกำกับของ พอล เวอร์โฮเวน และนำแสดงโดย อาร์โนลด์ ชวาซเนกเกอร์ กับ ชารอน สโตน
ยี่สิบสองปีผ่านไป หนังเรื่องนี้ก็ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ โดยมีความเปลี่ยนแปลงจากเดิมหลายจุด
ที่สำคัญคือโทนของหนังที่ขาดแอ๊กชั่นฮีโร่ที่คอยหยอดประโยคทีเด็ดเป็นคำคมเก๋ไก๋ แบบที่เรียกว่า one-liner สอดแทรกประปรายอยู่ระหว่างแอคชั่นเปรี้ยงปร้างระเบิดเถิดเทิง ในลักษณะเดียวกับหนังชุด เจมส์ บอนด์
นอกจากนั้น การผจญภัยของพระเอกในหนังดั้งเดิมยังเกิดขึ้นบนดาวอังคาร ซึ่งกลายเป็นอาณานิคมของโลกไปแล้ว จากการทำลายล้างทรัพยากรธรรมชาติของมนุษย์เอง
การปกครองที่กดขี่ของผู้นำชื่อ โคเฮเกน (ไบรอัน แครนสตัน) ทำให้เกิดการต่อต้านของฝ่ายกบฏที่มีผู้นำที่หลบลี้อยู่ชื่อ มาไธอัส (บิล ไนฮี) และแอคชั่นฮีโร่ของเราก็กลายจากกบฏที่ต้องการล้มล้างรัฐบาลไปเป็นนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพ
เคต เบกคินเซล กลายเป็นสาวนักบู๊แบบล้างผลาญในลักษณะเดียวกับบทบาทที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จมาแล้วในหนัง Underworld
จุดแตกต่างอีกข้อหนึ่งซึ่งกลายเป็นจุดอ่อนของหนังที่สร้างใหม่คือการตีความของเรื่อง ซึ่งดูจะให้บอกข้อสรุปอย่างชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร ผิดกับตอนจบของหนังดั้งเดิม ที่ในตอนจบดักลาสเองยังตั้งข้อสงสัยว่าตัวตนตัวไหนของเขาแน่ที่เป็นจริงแท้ ไม่ใช่มายา หรือความจำเสมือนที่ถูกฝังเข้าไปในหัว
แน่นอนว่าช่วงเวลาในการสร้างหนังที่ต่างกันถึงยี่สิบสองปี ย่อมทำให้มีเทคโนโลยีใหม่ๆ สร้างภาพที่สมจริงสมจังได้ยิ่งกว่าเดิม แต่องค์ประกอบของหนังจุดหนึ่งที่ผู้กำกับคนใหม่ยังไม่กล้าเสี่ยงจะตัดออก คือฉากของโสเภณีข้างทางที่เปิดอกให้พระเอกดูเพื่อเชิญชวนลูกค้า เห็นนมสามเต้าเรียงกันอยู่บนทรวงอกของเธอ!!
ถ้าไม่เปรียบเทียบกับหนังดั้งเดิมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ก็นับว่า Total Recall ที่สร้างใหม่นี้สนุกใช้ได้ทีเดียวเลย
สิ่งต่างๆ ที่อยู่ในโลกอนาคตตามจินตนาการของคนสร้างหนังนั้น ชวนให้คิดต่อไปอีกเยอะเลย อย่างหนึ่งที่รู้สึกได้คือ ไม่อยากอยู่จนถึงเวลาได้เห็นโลกที่ไม่เหลือธรรมชาติเขียวๆ ไว้ให้เพลิดเพลินอีกแล้ว
ไม่รู้ว่ากาลเวลาปัจจุบันเข้าไปใกล้ยุคสมัยแห่งอนาคตกาลนั้นมากน้อยแค่ไหนแล้ว
มนุษยชาติเองนี่แหละตัวการทำลายธรรมชาติแท้ๆ
.
