http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-08-24

จับตา กก.สิทธิฯ, ใครสั่งสไนเปอร์, คุณห้อยคุณโหน, เปลี่ยนไป ในคอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม

.
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง - ทุจริตจำนำข้าว ตัวเลขอันมากด้วยสีสัน ต้องการการพิสูจน์
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม - ปลาย่อมอาศัยน้ำ โดย จ่าบ้าน
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม - ปืนกับยาเสพติด โดย จ่าบ้าน


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

จับตา กก.สิทธิฯ
โดย สมิงสามผลัด 
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์  วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายอะไรเลย 
กรณีพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้คณะกรรม การสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเปิดเผยร่างรายงานผลการตรวจสอบเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553  
เพราะร่างของคณะอนุกรรมการฯ ฉบับนี้เคยเปิดเผยออกมาแล้วครั้งหนึ่ง จน กก.สิทธิฯ ชุดใหญ่ต้องปฏิเสธว่าเป็นร่างที่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบ
ที่ไม่แปลกใจ เพราะเนื้อหาของร่างดังกล่าวแทบไม่มีอะไรที่ปกป้องพิทักษ์สิทธิของผู้ชุมนุมเลย 
แต่กลับปกป้องคุ้มครองรัฐบาลในขณะนั้น 
เพราะสรุปว่าการสั่งการใดๆ ของรัฐบาลชุดดังกล่าวถูกต้องเหมาะสมทั้งสิ้น 
การสลายการชุมนุมของรัฐบาลเป็นการกระทำภายใต้กฎหมายที่ให้อำนาจไว้
การสรุปแบบนี้เป็นที่ต้องการของปชป.อยู่แล้ว



จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกปชป.ถึงต้องทำขึงขังเรียกร้องให้กก.สิทธิฯ เปิดเผยผลสอบชิ้นนี้ 
ยังไม่รู้ว่ากสม.ชุดใหญ่จะเห็นชอบกับร่างการตรวจสอบฉบับนี้หรือเปล่า 
แต่มีคำถามหลายข้อถึง กก.สิทธิฯ หากมีการเห็นชอบร่างฉบับที่ถูกใจ ปชป.ขึ้นมาจริงๆ

ต้องถามว่าทำไม กก.สิทธิฯ ไม่ปกป้องคุ้มครองสิทธิของผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้รัฐบาลในขณะนั้นลาออก-ยุบสภา 
แต่กลับปกป้องผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธสงคราม และรถหุ้มเกราะ เข้าไปสลายการชุมนุมของประชาชน
จนนำไปสู่การสูญเสีย 98 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 2 พันคน
ทำไมไม่ปกป้องผู้เสียชีวิตจากการถูกสไนเปอร์ยิงกลางถนน
ทำไมไม่ปกป้องผู้เสียชีวิต 6 ศพที่ถูกสังหารหมู่ที่วัดปทุมวนาราม 
ทำไมไม่ปกป้องผู้ต้องขังเสื้อแดงอีกนับร้อยที่ถูกจองจำด้วยข้อหาที่เกินความเป็นจริง




สุดท้ายคงต้องเฝ้ารอด้วยใจระทึก
โดยหวังอย่างยิ่งว่า กก.สิทธิฯ จะยืนอยู่ฝั่งเดียวกับผู้สูญเสีย
ไม่เลือกที่จะปกป้องคนสั่งการปราบปรามประชาชน !?



++

ใครสั่งสไนเปอร์    
โดย มันฯ มือเสือ 
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์  วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


คดีความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูญเสียชีวิตและบาดเจ็บจากคำสั่งใช้ความรุนแรงปราบปรามสลายการชุมนุมเดือนเม.ย.-พ.ค.2553
มาถึงจุดต้องจับตาอีกครั้ง 
หลังมีการระบุถึงคำสั่งการใช้พลซุ่มยิง หรือ 'สไนเปอร์' ออกมาปฏิบัติการกับผู้ชุมนุม
ระหว่างที่หลายคนสงสัยว่าเรื่องดังกล่าวจริงเท็จอย่างไร เนื่องจากมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบางคนที่อยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์ช่วงนั้นออกมาปฏิเสธ 
ปรากฏว่ามีเว็บไซต์ข่าวบางแห่งนำเอกสารตีตราลับ ลงวันที่ 17 เม.ย.2553 ออกมาเปิดเผย เป็นหนังสือขออนุมัติแนวทางปฏิบัติในการใช้อาวุธ
ใจความสำคัญอยู่ในข้อ 2.5 ที่ระบุ
กรณีพบความผิดซึ่งหน้าในลักษณะผู้ก่อเหตุใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ หรือใช้อาวุธ/วัตถุระเบิดต่อที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญ ที่ศอฉ.กำหนด ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้อาวุธยิงผู้ก่อเหตุเพื่อหยุดยั้งการปฏิบัติได้ แต่หากผู้ก่อเหตุอยู่ปะปนกับผู้ชุมนุม จนอาจทำให้การใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่เป็นอันตรายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ให้งดเว้นการปฏิบัติ ยกเว้นในกรณีที่หน่วยได้จัดเตรียมพลแม่นปืน (Marksmanship) ที่มีขีดความสามารถเพียงพอให้ทำการยิงเพื่อหยุดยั้งการก่อเหตุได้ นอกจากนี้ หากหน่วยพบเป้าหมายแต่ไม่สามารถทำการยิงได้ เช่น เป้าหมายอยู่ในที่กำบัง ฯลฯ หน่วยสามารถร้อง ขอการสนับสนุนพลซุ่มยิง (Sniper) จาก ศอฉ.ได้



ความจริงแท้เป็นอย่างไรต้องติดตามต่อไป 
สำหรับแนวทางสอบ สวนคดีการตาย 98 ศพตามที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอวางไว้คือ
การเรียกตัว 'สไนเปอร์' มาสอบปากคำ จากนั้นก็จะกันตัวไว้เป็นพยาน 
เพราะเชื่อว่าในการปฏิบัติการทางทหาร สไนเปอร์ไม่สามารถออกมาซุ่มยิงได้เองตามอำเภอใจหากไม่ได้รับคำสั่งจากผู้มีอำนาจ

คำถามจึงวนกลับมาตรงที่ว่า
แล้วใครคือผู้มีอำนาจสั่งการตอนนั้น



++

คุณห้อยคุณโหน
ในข่าวสดออนไลน์  วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


คอการเมืองขนานแท้หลายรายให้ความเห็นตรงกันว่า อภิปรายงบประมาณหนที่ผ่านมา
ไม่รู้ว่าพรรคฝ่ายค้านตั้งใจจะ "ยั้งมือ" เอาไว้เพื่อเตรียมไปเช็กบิลรัฐบาลในการแถลงนโยบายหนึ่งปีและอภิปรายไม่ไว้วางใจ
หรือไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ 
หรือเพราะรัฐบาลกำชับกำชากันไม่ให้ขบวนการประท้วง "จัดหนักจัดเต็ม" งานเลยกร่อย
การอภิปรายก็เลยเบาๆ จืดๆ บางช่วงกลายเป็นสนามฝึกงานของเด็กใหม่ หรือเปิดโอกาสให้ผู้แทนที่อยากออกจอให้พี่น้องทางบ้านเห็นแสดงบทบาท
ก็ว่ากันไป

อาจมีข้อมูลข้อเสนอแนะหลายประการที่รัฐบาลก็น่ารับฟังไปปรับปรุงการทำงาน 
แต่มีการอภิปรายบางส่วนที่ฟังไม่ได้เอาเลย 
เช่น นักกีฬาไทยไม่ได้เหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้เพราะรัฐบาล 
คิดได้ยังไง?

ถ้าจะพยายามแสดงตัวผู้รู้และผู้รักกีฬาจริงอย่างที่อภิปราย ทำไมถึงไม่ถามหรือไม่เสนอแนะว่า 
1.จากนี้จะทำอย่างไรกันต่อไป จะใช้งบประมาณขนาดไหน ตรงไหน ด้วยวิธีไหน 
2.ที่ผ่านมาเกิดปัญหาหรือข้อผิดพลาดอะไรที่ทำให้กีฬาไทยไม่ได้เหรียญทอง

เราพัฒนาช้ากว่าคนอื่น หรือร้ายกว่านั้นคือจริงๆ แล้วเราสมัครใจเดินหน้าเข้าคลอง?
และที่ผิดพลาดไปนั้น ส่วนไหนที่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล มีอะไรบ้าง จะต้องปรับปรุงแก้ไขกันอย่างไร 
ทำไมสะท้อนปัญหาหรือเสนอแนะอะไรที่เป็นสาระไม่ได้
ทำไมต้องวนเวียนกับถ้อยคำสำนวน "เชยๆ" บ้าง ยกตนข่มท่านบ้าง เสียดสีเย้ยหยันบ้าง 
หรือกลัวพูดแล้วจะเข้าเนื้อตัวเอง?

เพราะอาจจะมีคนย้อนเข้าให้ได้ว่า ช่วง 2 ปี 8 เดือนซึ่งเป็นรัฐบาลมาก่อนไม่ได้ทำอะไรเลย  
ผลจากวันก่อนถึงได้ออกมาอย่างที่เห็นในวันนี้ 

ไหนๆ จะโหนกระแสกับเขาทั้งที โหนให้ดี โหนแบบนักยิมนาสติกโอลิมปิกหน่อยไม่ได้หรือ ยังไง

เป็นได้แค่โหนต่องแต่งเรียกเสียงฮาหรือ?



++

เปลี่ยนไป
โดย สมิงสามผลัด  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์  วันเสาร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.  ข่าวสดออนไลน์


มีเรื่องให้วิเคราะห์กันไม่จบไม่สิ้นสำหรับพรรคประชาธิปัตย์
เคยมีคน ปชป.ตั้งข้อสังเกต ว่าทำไมสื่อกลับตรวจสอบฝ่ายค้าน  

ตอบได้ทันทีเลยว่าสื่อมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอยู่แล้ว
ตรวจสอบการใช้งบประมาณ นโยบาย การทำงาน
และทุกสื่อก็ตรวจสอบแบบนี้มาทุกรัฐบาล

ยิ่งรัฐบาลชุดก่อนโดนตรวจสอบเข้มข้นอย่างยิ่ง
เพราะดันปล่อยให้เกิดการเข่นฆ่า 98 ศพใจกลางเมืองหลวง 
ปล่อยให้สไนเปอร์ไล่ยิงชาวบ้านบาดเจ็บทุพพลภาพกว่า 2 พันคน 
เพียงแค่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย

สื่อจึงมีหน้าที่ขุดคุ้ย นำความจริงมาตีแผ่ 
ไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไปง่ายๆ แม้รัฐบาลชุดนั้นจะพลิกผันมาเป็นฝ่ายค้านก็ตาม



วกกลับเรื่องปชป.ในฐานะของพรรคฝ่ายค้าน ก็สร้างปรากฏการณ์ประหลาดขึ้นในช่วงเวลาแค่ 1 ปีเท่านั้น  
หากจำกันได้ ปชป.ในอดีต เคยเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง
อภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งใด ต้องมีหลักฐานเด็ดๆ ออกมาเปิดโปงจนรัฐบาลซวนเซไปได้ทุกครั้ง 
แต่ทุกวันนี้ ปชป.เลือกที่จะค้านแบบหัวชนฝา ค้านหมดทุกเรื่อง 
จนดูเหมือนเป็นเรื่องส่วนตัวไปเสียแล้ว 
เอะอะอะไรก็ฮือล้อมกรอบ ตะโกนด่าทอ ปาแฟ้มเอกสาร ลากเก้าอี้หนี 
เป็น ปชป.ในมุมที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในสภา


ซึ่งนี่อาจเป็นที่มาเรื่องประหลาดอีกเรื่อง
เอแบคโพลเพิ่งสำรวจเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไปสัปดาห์ก่อน 
ผลกลับออกมาว่าเกินครึ่ง หรือร้อยละ 52.2 ไม่เห็นด้วยที่ฝ่ายค้านจะยื่นซักฟอกรัฐบาล 
ให้เหตุผลว่ารัฐบาลยังทำงานได้ดี เกรงว่าจะมีแต่เรื่องวุ่นวาย ทะเลาะกันจนเสียภาพลักษณ์การเมืองไทย 
ร้อยละ 64.1 ระบุควรให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อไปก่อน

แทบไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 
แล้วนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านจะรับผิดชอบอะไรบ้าง !?



+++

ทุจริตจำนำข้าว ตัวเลขอันมากด้วยสีสัน ต้องการการพิสูจน์
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ในข่าวสดออนไลน์  วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


 ตัวเลขการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวอันมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะโดยการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2556 ไม่ว่าจะโดยการแถลงต่อสาธารณะ
 น่าทึ่งอย่างยิ่ง น่าทึ่งในความสามารถ 
 นั่นก็เห็นได้จากการแจกแจงกระบวนการทุจริตในเรื่องการโกงความชื้น โกงตาชั่ง มีสิ่งเจือปน ได้รับเงินช้า การสวมสิทธิ์ เอาข้าวเก่าเวียนเทียน เข้าข้าวเสื่อมสภาพมาจำนำ
 เป็นเรื่องทั้งการโกงโดยชาวนา การโกงโดยโรงสี การโกงโดยเจ้าหน้าที่รัฐ การโกงโดยนักการเมือง 
 จากยอดรวมการจำนำข้าว 17.2 ล้านตัน ใช้งบประมาณ 2.6 แสนล้านบาท

 ชาวนาได้ไป 37,250 ล้านบาท โรงสีได้ไป 18,000 ล้านบาท ผู้ส่งออกที่ใกล้ชิดรัฐบาลได้ไป 23,400 ล้านบาท โกดังและเซอร์เวเยอร์ได้ไป 4,200 ล้านบาท นักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐได้ประโยชน์ 17,150 ล้านบาท 
 น่าทึ่งอย่างยิ่งในการเจาะลึก 



 หากเปรียบเทียบกับกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ไปตรวจสอบ
 ถือว่าห่างชั้นอย่างปากเหวกับก้นเหว 
 อย่างเก่งที่ดีเอสไอสามารถระบุได้คือ ตรวจพบการทุจริตใน 19 จังหวัดและกำลังขยายผลให้ลงลึกไปในรายละเอียด
 เป็นการทุจริตในระดับปฏิบัติการ

 แน่นอน ดีเอสไอไม่สามารถระบุตัวเลขการทุจริตและการสูญเสียได้เหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์จำแนกแจกแจง โดยเฉพาะจำนวนเงินที่นักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐสมคบกันเบียดบังไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท
 น่าสยดสยองอย่างยิ่ง

 กระนั้น ความวิลิศมาหราของตัวเลขในด้านกลับก็เรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างสูงด้วยเหมือนกันต่อคำถามที่ว่าได้มาอย่างไร
 ได้มาจากไหนและมีความเป็นจริงมากน้อยเพียงใด 
 หลักฐานอาจยากลำบาก แต่หากประสานเข้ากับกระบวนการตรวจสอบของดีเอสไอก็สามารถทำให้นามธรรมกลายเป็นรูปธรรมได้ 
 เพียงแต่ว่าจะ “สามารถ” หรือไม่ เท่านั้น
 เพียงแต่ว่าตัวเลขที่วาดพรรณนามาอย่างมากด้วยสีสันนั้นสัมพันธ์กับข้อเท็จจริงอย่างไร หรือเสมอเป็นเพียงการหกคะเมนตีลังกาในเชิงสถิติ
 จินตนาการ


 แนวทางของพรรคประชาธิปัตย์มีหนทางเดียวเท่านั้น คือ การพิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์ 
 พิสูจน์ว่าตัวเลขที่นำเสนอเป็นความจริงอย่างไร
หากไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นที่ประจักษ์ก็สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างความเป็นจริงกับจินตนาการก็จะเป็นอันตราย 
 บูมเมอแรง



+++

ปลาย่อมอาศัยน้ำ
โดย จ่าบ้าน  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
ในข่าวสดออนไลน์  วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:01 น.


คาร์บอมบ์เกิดถี่ขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากจังหวัดนี้ไปจังหวัดนั้น นานทีมีข่าวไปถึงจังหวัดสงขลา อำเภอหาดใหญ่ ให้หวั่นไหวหวั่นวิตก ผู้บริหารระดับสูงถึงกับต้องออกมารับประกันว่าเตรียมพร้อมป้องกันไว้แล้ว รับรองว่าไม่เกิดขึ้นในสงขลาและหาดใหญ่ 
ทันทีที่เกิดเหตุ "คาร์บอมบ์" ไม่นาน ก็มีการแถลงข่าวถึงรถที่บรรทุกระเบิดนั้นว่ามาจากไหน เป็นรถอะไร แต่ยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้
เหตุคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นครั้งหลังเห็นว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ไม่ทราบว่าเป็นเพราะบังเอิญหรือตั้งใจ เพราะอย่างน้อยการกำหนดจุดจอดรถระเบิดต้องเป็นแหล่งชุมชน ทั้งเป็นเวลาที่ผู้คนพลุกพล่าน

แต่เมื่อไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็ต้องนับว่าเป็นที่น่ายินดี แต่ไม่ควรชะล่าใจ เพราะยังไม่รู้ว่าเหตุจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไหร่ และจะร้ายแรงมากน้อยแค่ไหน
ทุกครั้งที่เกิดเหตุ ท่านผู้บัญชาการทหารบกพยายามขอไม่ให้สื่อมวลชนเสนอข่าว แต่ทั้งข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์และหน้าจอโทรทัศน์ กับจากหน้าปัดวิทยุ ก็นำเสนอกันเต็มที่

เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นที่รู้เห็นไปทั้งบริเวณ และเป็นเหตุร้าย ไม่ใช่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ แล้วทำไมจึงไม่ให้คนไทยได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองนี้ที่มีท่านเป็นผู้บัญชาการทหารบก 
คาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นหลังสุด (ก่อนวันที่ 17 สิงหาคม) เป็นเหตุให้รถเสียหายมากถึง 8 คัน แม้จะไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
แต่ครั้งต่อไปจะร้ายแรงกว่านี้ไหม จะมีผู้บาดเจ็บล้มตายไหม ใครตอบได้



วันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวผู้ก่อการเหล่านั้นแล้วหรือไม่ ทั้งมีโอกาสตรวจค้นรถที่ผ่านหน้าไปทุกคันหรือไม่ว่าเป็นรถที่มีระเบิดบรรทุกไว้ โดยเฉพาะรถบางคันที่จอดในจุดอันตราย ซึ่งทางฝ่ายทหารเรียกว่าเขตปลอดภัย 
ถึงวันนี้ ทางราชการโดยเฉพาะศอ.บต. ได้รับความร่วมมือจากประชาชนมากน้อยเพียงใด 
ในเมื่อนิยามคอมมิวนิสต์มีว่า "ประชาชนเป็นน้ำ คอมมิวนิสต์หรือผู้ก่อการร้ายเป็นปลา"
เราปฎิบัติการถูกต้องจนสามารถแยกปลาออกจากน้ำ หรือไม่ให้ปลาลงไปอยู่ในน้ำได้หรือยัง
ถ้ายัง อีกประเดี๋ยวก็ "ตูม"



+++

ปืนกับยาเสพติด
โดย จ่าบ้าน
  คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
จำนวนคนอ่านล่าสุด 2598 คน   
ในข่าวสดออนไลน์  วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 00:54 น.  ข่าวสดออนไลน์


เพราะมีปืน ปืนจึงลั่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต เจ้าของปืนต้องเสียใจเพราะผู้เสียชีวิตคือผู้ที่รู้จักมักคุ้น
ประการสำคัญ เป็นเหตุให้เจ้าของปืนต้องข้อหาทำให้คนตายโดยประมาท 
เพราะมีปืนจึงเกิดอาการฮึกเหิม สอดส่ายตาตามหาคู่อริ แม้ไม่รู้จักโดยตรง เพียงพบเห็นบนรถเมล์ก็ถามว่าเรียนที่ไหน ยังไม่ทันได้รับคำตอบก็ใช้ปืนนั้น ?ฆ่า? ผู้ที่คิดว่าเป็นคู่อริเสียชีวิตบนรถเมล์คันนั้น และแม้วันนี้ จะหนีไปได้ แต่วันข้างหน้าก็ต้อง ถูกตำรวจจับกุมมาลงโทษตามกฎหมาย ด้วยข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 
เพราะมีปืนจึงพกปืนเดินกร่างไปทั่วตลาด ข่มขู่ใครต่อใครว่าอย่าหือ ประเดี๋ยวพ่อยิงไส้แตก

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลห้ามตั้งด่านกลางวัน และห้ามตำรวจจราจรตรวจจับโดยไม่มีเหตุอันควร ขณะที่เหตุวิวาทจากวัยรุ่นและนักเรียนนักเลงมักจะเกิดขึ้นในเวลากลางวัน
เวลากลางวัน ทางที่ดีควรมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเท้า หรือจักรยานยนต์ออกตรวจไปตามทางสัญจรและแหล่งชุมชน การที่มีตำรวจเดินเท้าจะทำให้ประชาชนทั่วไปอุ่นใจ หากเกิดเหตุร้ายเร่งด่วนจะได้แจ้งตำรวจได้ทันท่วงที หรือหากตำรวจประสบเหตุซึ่งหน้าจะได้จับกุมคนร้ายได้ทันควันเช่นกัน 
ที่สำคัญคือผู้ร้าย หรือผู้ที่จะก่อเหตุร้าย หรือผู้ที่พกพาอาวุธ เด็กและเยาวชนจะได้เกิดการเกรงกลัว โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในสถานเล่นเกม หรือแหล่งบันเทิง เช่น หน้าโรงภาพยนตร์ ศูนย์การค้า ที่หนีโรงเรียนมา



ท่านผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่เคารพ ไม่ว่าท่านจะทราบหรือไม่ทราบ กรุณารับทราบไว้ว่า วันนี้ผู้ค้ายาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าใช้เด็กนำยาไปส่งให้ลูกค้าครั้งละไม่มาก อาจจะรอดหูรอดตาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ แต่ก็มีหลายรายที่เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมไปส่งเจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ เพื่อส่งอัยการและศาลครอบ ครัวและเยาวชนพิจารณาโทษต่อไป
ทั้งอาวุธปืนและยาเสพติดอาจไม่เกี่ยวข้องกัน แต่อย่าชะล่าใจ เพราะผู้ค้ายาเสพติดจะพกปืนติดตัวตามที่ผู้ค้ายารายใหญ่ให้ไว้ป้องกันตัว
ทั้งที่รู้ว่ายิ่งต่อสู้เจ้าหน้าที่ยิ่งถูก 'ฆ่าตัดตอน' ง่าย



.