http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-08-30

พิศณุ:(2) ทำไมวิ่งเร็วต้องจาเมกา วิ่งมาราธอนต้องเคนยา?

.
บทก่อนหน้า - (1) แก้ว พงษ์ประยูร ควรแพ้ไหม ? โดย พิศณุ นิลกลัด

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

(2) ทำไมวิ่งเร็วต้องจาเมกา วิ่งมาราธอนต้องเคนยา?
โดย พิศณุ นิลกลัด คอลัมน์ คลุกวงใน
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1671 หน้า 96


แชมป์วิ่ง 100 เมตรโอลิมปิก 2012 ทั้งประเภทหญิงและประเภทชายเป็นแชมป์คนเดียวกับแชมป์โอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่ง คือ เชลลี่แอน เฟรเชอร์ ไพรซ์ และ ยูเซน โบลต์ ทั้งคู่เป็นชาวจาเมกา 
นอกจากนั้น วิ่ง 200 เมตรชาย นักวิ่งจากจาเมกาก็กวาดเรียบทั้งเหรียญทอง เงิน และทองแดง
4 คูณ 100 เมตรชาย ก็ได้ไปอีก 1 เหรียญทอง ยูเซน โบลต์ วิ่งเป็นไม้สุดท้ายเข้าเส้นชัยแบบแทบไม่ต้องใช้ความพยายาม

มีคำถามว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้คนจาเมกาวิ่งเร็วที่สุดในโลกทั้งหญิงและชาย? 

มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ของสก็อตแลนด์ทำวิจัยเรื่องนี้ 
ผลการวิจัยบอกว่าเป็นเพราะคนจาเมกามีบรรพบุรุษมาจากคนทวีปแอฟริกาทางฝั่งตะวันตกซึ่งสเปนนำมาเป็นทาสแรงงานสมัยปกครองจาเมกาในช่วงตั้งแต่ปี ค.ศ.1510 
คนแอฟริกาภูมิภาคนี้รูปร่างสูงใหญ่ ปากหนา จมูกโต ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับคนผิวเข้มชาวอเมริกัน 

ในกล้ามเนื้อของคนเผ่าพันธุ์นี้มียีนแอ็กทิเน็น คอมโพเนนต์ (Actinen component หรือ ACTN3) มากกว่าคนเผ่าพันธุ์อื่น 

ยีน ACTN3 ตัวนี้เชื่อกันว่าช่วยทำให้กล้ามเนื้อเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว 
ประเทศทางฝั่งทวีปแอฟริกาตะวันตกซึ่งเป็นบรรพบุรุษของคนจาเมกาและอเมริกันผิวเข้ม ได้แก่ กานา แกมเบีย เซเนกัล เซียร์ราเลโอน ไอวอรีโคสต์ (โก๊ต เดอ วัวร์) และไลบีเรีย ซึ่งบรรพบุรุษของ โอปร้า วินฟรี่ย์ พิธีกรหญิงชื่อดังชาวอเมริกันมาจากประเทศนี้




มีคำถามต่อว่า แล้วทำไมวิ่งระยะไกลต้องเป็นเคนยากับเอธิโอเปีย 
ตอบว่าเรื่องนี้ก็มีคนค้นคว้าวิจัยครับ
สมัยก่อนโน้นเชื่อกันว่าในร่างกายคนเรามีกล้ามเนื้อ 2 ประเภท คือกล้ามเนื้อแดง กับกล้ามเนื้อขาว
กล้ามเนื้อขาวเป็นกล้ามเนื้อสำหรับวิ่งเร็วแต่ล้าง่าย ส่วนกล้ามเนื้อแดงเป็นกล้ามเนื้อเคลื่อนไหวช้า แต่อึด ใช้งานได้นาน คนจาเมกามีกล้ามเนื้อขาวมาก คนเคนยาและเอธิโอเปียมีกล้ามเนื้อแดงเยอะ 
แต่เมื่องานวิจัยทำการเปรียบเทียบสัดส่วนของกล้ามเนื้อของนักวิ่งเคนยา-เอธิโอเปียกับนักวิ่งชาติอื่น ปรากฏว่าไม่พบข้อแตกต่าง จึงสรุปว่ากล้ามเนื้อขาว-กล้ามเนื้อแดงไม่น่าจะเกี่ยวกับความอึดความเร็ว 


มีความพยายามหาเหตุผลอีกหลายประการที่จะนำมาสนับสนุนการวิ่งอึดของนักวิ่งเคนยาและเอธิโอเปีย
เช่น เพราะประเทศอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเกือบ 2,000 เมตร การเกิดและเติบโตในบรรยากาศที่บางเบากว่าพื้นราบทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดมากขึ้น จึงทำให้วิ่งอึด
แต่ทฤษฎีนี้ถูกลบล้างด้วยคำถามที่ว่า แล้วทำไมนักวิ่งจากเนปาล อุรุกวัย และเปรู ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่าจึงไม่มีนักวิ่งระยะไกลชั้นแนวหน้า 
นักกีฬาชาติตะวันตกหลายชาติที่เชื่อทฤษฎีนี้เคยเอานักกีฬาไปเก็บตัวฝึกซ้อมในที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเยอะๆ เพื่อจะได้อึด ปรากฏว่าไม่ได้ผล



สุดท้ายมีงานวิจัยที่น่าสนใจของนักวิทยาศาสตร์ชาวเดนมาร์กชื่อ เฮนริก ลาร์เซ่น จากศูนย์วิจัยกล้ามเนื้อโคเปนเฮเกน
ผลงานวิจัยบอกว่าช่วงขาของนักวิ่งเคนยาและเอธิโอเปียยาวกว่านักวิ่งเดนมาร์ก (ซึ่งเป็นคนยุโรปตอนเหนือเผ่าพันธุ์นอร์ดิกที่ถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ตัวสูงใหญ่ที่สุดของยุโรป 5 เปอร์เซ็นต์) 
นอกจากนั้น มีน้ำหนักของเนื้อขาท่อนล่างน้อยกว่าถึง 12 เปอร์เซ็นต์ (โปรดสังเกตเรียวขานักวิ่งเคนยาและเอธิโอเปียว่าเล็กจริงๆ) 
การที่ขาเบา ทำให้ใช้พลังงานในการสับขาวิ่งน้อยกว่า 
น้ำหนักแต่ละ 50 กรัมที่เพิ่มขึ้นที่ข้อเท้า จะทำให้ต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้น ต้องใช้ออกซิเจนเพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ 


ถ้าเนื้อน่องและเนื้อท่อนขาหนักกว่านักวิ่งเคนยา-เอธิโอเปีย 5 กิโล หรือ 7 กิโล (ซึ่งเท่ากับ 5,000-7,000 กรัม) จะวิ่งระยะไกลอึดเท่านักวิ่งตัวเล็กขาลีบสองชาตินี้ได้อย่างไร



โปรดสังเกตว่าทั้งแชมป์วิ่งเร็วจากจาเมกาและแชมป์วิ่งมาราธอนจากเคนยา-เอธิโอเปีย มาจากทวีปเดียวกัน แต่รูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกัน
นักวิ่งเคนยาและเอธิโอเปียรูปร่างเล็กกว่า เตี้ยกว่า ปากบางจมูกโด่งกว่าเพราะเป็นประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก มีเลือดผสมอินเดียและอาหรับ 
เมื่อ 20 ปีที่แล้วเคนยาและเอธิโอเปียเป็นจ้าวโลกเฉพาะวิ่งมาราธอน แต่ช่วงหลังๆ กินลึกและกินยาวลงมาถึงวิ่ง 800 เมตรแล้ว
ทำเนียบสุดยอด 100 นักวิ่งมาราธอนระดับโลกในขณะนี้เป็นนักวิ่งเคนยาชาติเดียวตั้ง 50 เปอร์เซ็นต์ 
และถ้าจัดอันดับ 10 สุดยอดนักวิ่งมาราธอนที่ทำเวลาดีที่สุดของโลกตลอดกาล ปรากฏว่าเป็นเคนยาและเอธิโอเปียชาติละ 5 คน!

ชาวเคนยาและเอธิโอเปียชอบการวิ่งมาก โดยเฉพาะการวิ่งครอสคันทรีเป็นยิ่งกว่ากีฬา-แบบเดียวกับชาวบราซิลมีฟุตบอลเป็นลมหายใจ การวิ่งครอสคันทรีเป็นบันไดดาราไปสู่การวิ่งระยะไกลทุกประเภท 
นอกจากการวิ่งระยะไกลเป็นวัฒนธรรมของชาวเคนยา-เอธิโอเปีย แล้วยุคสมัยปัจจุบันการวิ่งยังยึดเป็นอาชีพทำให้ร่ำรวยมหาศาลได้แบบเดียวกับฟุตบอลและกีฬาประเภทอื่นๆ ยิ่งทำให้ 2 ประเทศที่ยากจนนี้มีนักวิ่งระยะไกลชั้นยอดเพิ่มขึ้น

โมเสส คิปทานุย สุดยอดนักวิ่งระยะกลางและเจ้าของสถิติโลกวิ่งวิบาก 3,000 เมตร ชาวเคนยาปี 1992 บอกว่าเมื่อคุณเกิดมาจน คุณมีทางเลือกสองทาง คือยากจนต่อไป หรือไม่ก็ไปเป็นนักวิ่ง



+++

(1) แก้ว พงษ์ประยูร ควรแพ้ไหม ?
โดย พิศณุ นิลกลัด คอลัมน์ คลุกวงใน 
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1670 หน้า 96


ก่อน แก้ว พงษ์ประยูร จะขึ้นชกชิงเหรียญทองกับ ซู ชิ หมิง หนึ่งวัน ผมกับเพื่อนนักข่าวกีฬาจากค่ายสยามสปอร์ตที่ประจำอยู่ลอนดอน นั่งทานอาหารกลางวันด้วยกันที่ร้านอาหารย่านฮอนแลนด์ พาร์ค มหานครลอนดอน
เขาถามผมว่า "แก้วจะได้เหรียญทองมั้ย" 
ผมตอบว่าต้องชนะแบบขาดลอยจึงจะได้เหรียญทอง ถ้าชนะแบบคู่คี่ ผมไม่คิดว่ากรรมการจะให้คะแนนนักมวยไทยชนะนักมวยจีน

เขาถามเหตุผล ?
ผมตอบว่าเพราะมวยโอลิมปิกคราวนี้กรรมการชาวไทยไม่ได้รับเชิญให้เป็นกรรมการตัดสินบนเวทีและกรรมการให้คะแนนเหมือนโอลิมปิกทุกครั้งที่ผ่านมา โอกาสที่กรรมการไทยจะ "ผูกมิตร" กับกรรมการให้คะแนนชาติอื่นๆ จึงไม่มีเหมือนครั้งก่อนๆ 
ตรงนี้สำคัญมาก 

เพราะเป็นที่รู้กันมานานตั้งแต่โอลิมปิกปี 1984 ที่ลอสแองเจลิสแล้ว ว่าการจะได้เหรียญโอลิมปิกนอกจากนักมวยต้องฝีมือดีแล้ว "คอนเน็กชั่น" และการ "ล็อบบี้" ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง


สมาคมมวยสมัครเล่นของทุกประเทศต้องการความสำเร็จในโอลิมปิก นักมวยและกรรมการซึ่งเป็นบุคลากรของสมาคมจึงต้องร่วมด้วยช่วยกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวอย่างสุดฝีมือทั้งบนเวทีและนอกเวที 
ว่ากันว่า การทำหน้าที่นอกเวทีนอกจากใช้ฝีมือ น้ำใจ ความสนิทสนม และ "การแลกเปลี่ยน" ทำนองเดียวกับการลงแขกดำนา แล้วสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ "ปัจจัย" ที่มีหลากหลายรูปแบบ 
ช่วงเวลาหนึ่ง-ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นานมาก มีคนไทยท่านหนึ่งดำรงตำแหน่งสำคัญในสมาคมมวยสากลสมัครเล่นโลก (ไอบ้า) ยุค นายอันวาร์ ชอว์ดรี้ เป็นประธานสมาคม (ตั้งแต่ปี 1986 ถึง 2006)
ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่นักมวยจะไม่แพ้ในลักษณะเหมือนที่ แก้ว พงษ์ประยูร แพ้ ซู ชิหมิง

เพื่อนผมคนหนึ่งเป็นกรรมการห้ามมวยสากลสมัครเล่นระดับนานาชาติเคยเล่าถึงบารมีในแวดวงกรรมการห้ามมวยของผู้บริหารคนไทยท่านนี้ว่าเป็นที่นับถือเกรงอกเกรงใจของกรรมการห้ามมวยเกือบทุกชาติทั่วโลกเพราะอยู่ในตำแหน่งยาวนาน 
ที่สำคัญกว่านั้นคือ เวลามีการแข่งขันชกมวยสากลสมัครเล่นรายการสำคัญๆ ของโลก ผู้บริหารท่านนี้มีหน้าที่หลักคือการเลือกกรรมการตัดสินบนเวทีและกรรมการให้คะแนนข้างเวทีทั้ง 5 คน ในการชกแต่ละคู่  
โดยตำแหน่งและโดยหน้าที่จึงสนิทสนมคุ้นเคยกับกรรมการทุกคน

แต่ในโอลิมปิกที่ลอนดอนนอกจากเราไม่มีคนแบบนี้อยู่ในสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นโลกซึ่งมีนายกฯ คนใหม่แทน นายอันวาร์ ชอว์ดรี้ มาตั้งแต่ปี 2006 แล้ว 
สมาคมมวยสากลสมัครเล่นโลก ยังไม่เลือกคนไทยไปเป็นกรรมการห้ามมวยและกรรมการให้คะแนนในโอลิมปิก 2012 แต่เลือกกรรมการจากประเทศเวียดนามซึ่งมาตรฐานมวยเทียบไทยไม่ได้ 
นัยว่าเป็นผลมาจากความขัดแย้งระหว่างสมาคมมวยสากลสมัครเล่นไทยกับสมาคมมวยสากลสมัครเล่นโลก หลังโอลิมปิก 2008
ที่นายกสมาคมของไทยคนก่อนไปวิจารณ์สมาคมมวยสากลสมัครเล่นโลกอย่างรุนแรง



คราวนี้ถามว่าแก้วแพ้ ซู ชิ หมิง มั้ย?
ตอบว่าออกได้ทุกด้าน คือไม่ว่าจะตัดสินให้ชนะหรือแพ้มีเหตุผลอธิบายได้ทั้งสิ้น และเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนัก

แต่ถ้าตัดสินให้ชนะ สามารถอธิบายเหตุผลได้ง่ายและชัดเจนกว่าตัดสินให้แพ้ 
ในกรณีตัดสินให้แก้วแพ้ ก็ต้องกลั้นใจบอกว่า ซู ชิ หมิง ชกฉกฉวยเก่ง ฟุตเวิร์กแคล่วคล่อง สวยงาม ฉลาด เดี๋ยวการ์ดแบบคนถนัดขวา เดี๋ยวสลับการ์ดเป็นคนถนัดซ้าย ทำให้คู่ต่อสู้สับสนและชกยาก แถมมีความเป็นแชมป์โลก 3 สมัยและแชมป์โอลิมปิก 2008 รับรองคุณภาพฝีมือ ยิ่งทำให้ดูเก่งง่ายยิ่งขึ้น 

ว่ากันตามจริง การชกไฟต์นี้แก้วชกดี เก่ง ฉลาด มีความพยายามจนถึงวินาทีสุดท้าย 
ซู ชิ หมิง สูงกว่าแยะ และสูงแบบแข็งแรง เท้าเร็วมาก ฉลาด ถือเป็นมวยชกยากที่สุด เขาชกสไตล์เดียวกับนักมวยสมัครเล่นเกาหลีใต้ยุคเมื่อ 30 ปีก่อนโน้น สมัยที่เป็นมหาอำนาจมวยสมัครเล่นเอเชีย 
คือชกเพื่อเอาชนะอย่างเดียวโดยไม่สนใจความสวยงามในลีลาการชก

แต่แก้วสามารถสู้กับ ซู ชิ หมิง ได้สมศักดิ์ศรีทุกวินาทีตลอด 3 ยก มิหนำซ้ำพอจบยกที่ 3 ผู้บรรยายฝรั่งซึ่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสียยังบอกว่าควรจะเป็นผู้ชนะ และเรียก ซู ชิ หมิง ตอนเดินลงจากเวทีว่า "The lucky man"

จริงๆ แล้ว แก้ว พงษ์ประยูร น่าจะเป็นผู้ชายโชคดีมากกว่า ซู ชิ หมิง



.