http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-09-05

เมื่อใดรางวัลซีไรต์ จะมีกระบวนการศักดิ์สิทธิ์ใหม่ๆ โดย มูสังแง๊ว ลูกแม่ทองหีบ

.

เมื่อใดรางวัลซีไรต์ จะมีกระบวนการศักดิ์สิทธิ์ใหม่ๆ
โดย มูสังแง๊ว ลูกแม่ทองหีบ 
บทความพิเศษ ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1672 หน้า 84


สองสามวันมานี้เดินเข้าออกร้านหนังสือเป็นว่าเล่น ในฐานะนักอ่านหนังสือคนหนึ่ง เพื่อตามหาหนังสือตามปูมลายแทงที่เรียกกันว่า "เข้ารอบสุดท้าย" รางวัลซีไรต์ประจำปี 2555 ทั้งหมด 7 เล่ม 
7 เล่มที่ว่า ก็หาใช่จะซื้อหามาเป็นเจ้าของได้ง่ายดายเพื่อการอ่านให้ร่วมอารมณ์ในฤดูกาลแห่งการตัดสินรางวัลอันศักดิ์สิทธิ์นี้ 
วนเวียนอยู่หลายรอบ หลายวัน ฝากพรรคพวกซื้อก็เอา เพราะรู้ว่าหนึ่งในเจ็ดเล่มที่ครอบครองนี่แหละ ที่เป็นหนังสือรางวัลซีไรต์ 
ดูๆ ไปแล้วเหมือนการเก็งรางวัล เหมือนไปร่วมอยู่ในกระบวนการอะไรบางอย่างในสนามวรรณกรรมแบบแกลดิเอเตอร์ ที่มีตัวอักษรเป็นอาวุธมาชิงชัยประหัตประหารกัน มีกรรมการตัดสินที่ผู้อ่านมองเห็นอยู่ไกลลิบๆ ทำได้เพียงลุ้น และรอคอยว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไร 

รอพลางนึกในใจพลางว่า ทำไมไม่ไถ่ถามผู้อ่านเลยว่าชอบตัวอักษรของหนังสือเล่มไหน ประทับใจเหลือเกินกับลีลาการเขียนของผู้เขียนเล่มใด กระเพื่อมไหวในก้อนอารมณ์กับมวลสารของวรรคใด หน้าใดในหนังสือเล่มอื่นๆ บ้าง 
ผู้ชมในสนามอยากจะร่วมเล่นลูกคลื่นกันบ้างจะเป็นไรไหม  
จะมีส่วนร่วมแสดงทัศนะในการต่อเชื่อมกับจิตวิญญาณอักษรเหล่านั้นบ้าง จะกระทำได้ไหม 

พูดตรงๆ กันว่ารางวัลซีไรต์นี้ กระบวนการส่วนหนึ่งจะเกิดจากมหาชน จะได้ไหม


คนแคระ ของ วิภาส ศรีทอง 
เดียวดายใต้ฟ้าคลั่ง ของ แดนอรัญ แสงทอง
ในรูปเงา ของ เงาจันทร์ 
รอยแผลของสายพิณ ของ สาคร พูลสุข 
เรื่องเล่าในโลกลวงตา ของ พิเชษฐ์ศักดิ์ โพธิพยัคฆ์
ลักษณ์อาลัย ของ อุทิศ เหมะมูล
โลกประหลาดในประวัติศาสตร์ความเศร้า ของ ศิริวรณ์ แก้วกาญจน์


ตัวอักษรที่เข้ารอบเหล่านี้ล้วนเกิดจากการบ่ม การหมักจากจิตวิญญาณของนักเขียน ไม่น้อยไปกว่าหนังสือจากนักเขียนเล่มอื่นๆ
อันนี้ไม่นับหนังสือแฉ ฉะ ดะ ต่างๆ ของพวกดาราหรือไฮโซ หรือหนังสือที่ไม่ได้เกิดจากการบ่มเพาะใดๆ เลยซึ่งเราเห็นกันอยู่ทั่วไปตามแผงหนังสือ 
ตัวอักษรบนโลกเกิดขึ้นใหม่ทุกๆ วินาทีถ้านักเขียนหรือผู้เขียนเพียงได้จรดปากกาหรือเคาะแป้นพิมพ์ เรามีตัวอักษรเป็นล้านล้านล้านตัวเดินแถวเรียงต่อกันไม่มีที่สิ้นสุด 
มีท่านคุรุกล่าวไว้ว่า "นักเขียนคือเลขานุการของประวัติศาสตร์" พวกเขาล้วนกำลังบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ และคิดว่าจิตวิญญาณของพวกเขาก็ฝังอยู่ในทุกๆ ตัวอักษร ทุกๆ เคาะแป้นพิมพ์ในภาระหน้าที่การบันทึกหน้าประวัติศาสตร์เอาไว้
กรรมการตัดสินล้วนแต่ต้องทำงานหนักมากในการแกะจิตวิญญาณที่ฝังอยู่ในหนังสือเล่มนั้นๆ อาจจะต้องแกะกันให้ละเอียดหน่อยให้ลึกลงไปถึงชั้นจิตใต้สำนึกเลยทีเดียว

กระบวนการและขั้นตอนรวบรัดไปหรือเปล่า เราพลาดปล่อยปละสิ่งที่ดีกว่าหลุดมือไปหรือไม่ หรือเราได้กระทำการตามขั้นตอนไปสมบูรณ์ดีแล้ว


ในฐานะผู้อ่านหนังสือดำรงชีวิตอยู่ในยุคสมัยที่มีหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ในยุคสมัยที่เปอร์เซ็นต์การอ่านหนังสือของเยาวชนลดลงฮวบฮาบ ซึ่งนั่นก็คือการต่อยอดของการไม่อ่านหนังสือของผู้ใหญ่ในอนาคต 
ในยุคสมัยที่ไม่ต้องค้นคว้าข้อมูลเนื้อหาใดๆ อย่างยากลำบากเพียงแค่คุณถามคุณครูกู 
ห้องสมุดหรือหอสมุดเป็นแหล่งพักพิงของไยแมงมุมและมองดูคล้ายๆ กับมีคุณยายวรนารถเป็นผู้เฝ้า 
หนังสืออ่านนอกเวลาภาคบังคับเป็นหนังสือที่รอรางวัลมาสวมทับก่อนที่จะพิจารณาเป็นหนังสือที่มีคุณค่า มันจะทำให้สถานการณ์การอ่านหนังสือแย่ลงไปอีกบ้างไหม อันนี้ไม่อาจทราบได้ 

ฝันลมๆ แล้งๆ ว่า กระบวนการคัดสรรหนังสือซีไรต์แห่งปี ภาคประชาชนน่าจะได้มีโอกาสเข้าร่วมอย่างน้อยสักหนึ่งในกระบวนการในการคัดสรร เรามีนักเรียน มีนิสิตนักศึกษา เรามีนักวิชาการ เรามีประชาชน ฯลฯ ที่เข้าถึงข้อมูลได้เพียงปลายนิ้ว ขอมีส่วนร่วมบ้างได้อ่านบ้าง มีส่วนร่วมแสดงความเห็นและให้มงกุฎกับหนังสือที่ตนเองชอบ 
อย่างน้อยที่สุดภาพรวมของกระบวนการที่แทรกเสนอเข้ามานี้ก็ช่วยทำให้เกิดการอ่านขึ้นบ้างแม้จะเป็นเพียงส่วนน้อยนิดในจักรวาลการเรียนรู้ ไม่เกิดผลอะไรขึ้นก็ให้มันรู้ไป


จากหนังสือที่ส่งประกวดทั้งหมด เอาสิ นิสิตนักศึกษาภาควิชาที่เกี่ยวกับการเขียนและวรรณกรรมทั่วประเทศ นักเรียนระดับมัธยมทั่วประเทศ เอาสิ อาจารย์สั่งสิ สั่งให้ไปหาหนังสือที่เสนอเข้าชิงรางวัลซีไรต์เล่มที่คิดว่าชอบและคู่ควรมาอ่านสักคนละหนึ่งหรือสองเล่ม เป็นภาคบังคับเหมือนหนังสือนอกเวลา แล้วไปโหวตที่ศูนย์รวมที่ไหนสักที่ ที่ประชาชนและนักอ่านทั่วไปเข้าไปร่วมโหวตและแสดงความคิดเห็น จนได้หนังสือที่คิดว่าดี เหมาะสม เข้าไปในรอบเล่มสุดท้าย
จากนั้นกระบวนการต่อไปก็ต้องให้เกียรติท่านคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติแล้ว 

แอบอมยิ้มแล้ว ว่าอย่างน้อยกุศโลบายให้เยาวชนอ่านหนังสือก็เริ่มหยอดเย้าเข้าไปในระบบการศึกษาแบบไร้ปล่องควันของบ้านเราในขณะนี้ได้ไม่มากก็น้อย ยิ้มต่ออีกหน่อยว่า ยอดขายหนังสือเล่มต่างๆ เหล่านั้น ไม่เพิ่มขึ้นมาก็เอาสิ



ถ้าตัวอักษรคืออำนาจ เล่มของหนังสือก็ย่อมหมายถึงสถานที่รวมอำนาจ ผลการตัดสินก็คือการให้อำนาจซ้อนในอำนาจเหนือดินแดนหนังสือเล่มนั้นๆ นั่นคือมองผ่านเข้าไปในเรื่องอำนาจไม่แท้ แต่เป็นอำนาจทางการตลาด 
พูดอย่างง่ายในแบบภาคประชาชนธรรมดาๆ ก็คือ การที่เราจะมีหนังสือดีๆ สักเล่มหนึ่ง เป็นกระบวนการที่ดีอย่างยิ่งที่จะผ่านการคัดสรร แต่ในปัจจุบันสมัยยุคศตวรรษที่เป็นปัจจุบัน เป็นกาลสมัยในพุทธชยันตีที่กล่าวกันทั่วไปในรอบปีนี้ การตลาดมีบทบาทอย่างสูงสุดในการกำหนดทิศทางในเกือบทุกบริบทในสังคมไทย ไม่เว้นแม้แต่ไก่ย่างห้าลาวกลางซอยในหมู่บ้านที่เลื่องลือกันว่ารสชาติเป็นเลิศ (Product) 
เป็นรสชาติสากลของคนไทย ไม่ฉุน ไม่เผ็ดพริกไทยเกินไปเหมือนไก่ย่างติดดาว ราคาย่อมเยากว่า (Price) เนื้อนุ่มกว่าแทบจะละลายบนลิ้น น้ำจิ้มก็จัดจ้านถึงใจกว่าเพราะเป็นน้ำจิ้มแบบแจ่ว แซบอีหลีกว่า มีน้ำจิ้มแถมไม่อั้น (Promotion)  
ซื้อหากันง่ายดายกว่าไม่ต้องออกไปถึงหน้าร้านสะดวกซื้อ ไก่ย่างนี้ฝังตัวอยู่ตามหัวมุมซอย กลางซอย ในทำเลที่เห็นกันจะจะ (Place)

ว่ากันว่าอย่างนั้น จนทำให้ดัชนีการขยายตัวของแฟรนไชส์ไก่ย่างที่ว่านี้พุ่งตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของวงการตลาดไก่ย่างภูธร 
นี่ไง การตลาดวงรอบเล็กๆ ที่โดนใส่ข้อมูลและกระบวนการเข้าไปเสริมทัพ อย่างน้อยเห็นบู๊ธไก่ย่างนี้ยังไงก็ต้องขอชิมก่อนหล่ะ อร่อยหรือไม่อร่อย ค่อยว่ากัน จะกลับมาซื้อใหม่ หรือถูกใจไปเสียแล้ว ว่าอย่างไรไก่ย่างในอุดมคติของดิฉันจะต้องเป็นไก่ย่างยี่ห้อนี้เท่านั้น (Brand Royalty)

หวังเหลือเกินว่าไม่อยากให้รางวัลอันศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นแค่สมการตัวหนึ่งในระบบการตลาด นั่นคือการ Promotion  
ความเห็นจะแรงหรือทำให้ล้า หรือจะท้าทายเกินไปไหม



.