http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-09-12

HOPE SPRINGS “สามสิบเอ็ดปี” โดย นพมาส แววหงส์

.

HOPE SPRINGS “สามสิบเอ็ดปี”
โดย นพมาส แววหงส์  คอลัมน์ ภาพยนตร์
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 07 กันยายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1673 หน้า 87


กำกับการแสดง David Frankel 
นำแสดง Meryl Streep 
Tommy Lee Jones 
Steve Carell 
Elizabeth Shue 
Mimi Rogers



เคย์ (เมอริล สตรีป) กับอาร์โนลด์ (ทอมมี ลี โจนส์) แต่งงานกันมานานสามสิบเอ็ดปีแล้ว
อาร์โนลด์เป็นพนักงานทำภาษี เป็นงานออฟฟิศจำเจทุกวี่วัน ไม่ใช่งานน่าตื่นเต้นเร้าใจ ส่วนเคย์ไม่ได้ทำงาน ได้แต่ดูแลกิจการบ้านเรือน ระหว่างที่สามีออกไปทำงาน 
ทั้งคู่อยู่ในช่วงชีวิตสมรสที่ฝรั่งเรียกว่า empty nest นั่นคือลูกเต้าโตๆ กันไปหมดแล้ว แต่งงานแต่งการไป หรือไม่ก็ไปตั้งต้นชีวิตของตัวเอง โผผินบินจากรังไปหมดแล้ว 
ตื่นเช้ามา เคย์ทอดเบคอน ตอกไข่ดาวใส่กระทะ ขณะที่อาร์โนลด์เดินมานั่งโต๊ะอาหาร กินเสร็จ เขาก็หิ้วกระเป๋าออกไปทำงาน ตกเย็น อาร์โนลด์จะดูรายการกอล์ฟอยู่จนหลับพับไปคาเก้าอี้นวม และเคย์ต้องปลุกและรุนหลังเขาไปเข้านอน...คนละห้องกัน 


ทั้งคู่แยกห้องกันนอนมาหลายปีแล้ว ด้วยเหตุที่เราได้รู้ในเวลาต่อมาว่าเพราะอาร์โนลด์มีอาการเจ็บหลังและขอแยกไปนอนในห้องพักแขก และแล้วก็เลยสิงสู่อยู่ที่นั่นตลอดกาลเสียเลยโดยไม่คิดจะกลับมาอยู่ห้องเดียวกันอีก  
ชีวิตสมรสไม่มีฝ่ายใดนอกใจไปมีคนอื่น แต่ก็เป็นชีวิตสมรสที่แห้งแล้ง ขาดความใกล้ชิดสนิทสนม ที่แน่ๆ คือความต้องการทางเพศของภรรยาไม่ได้รับการตอบสนอง 
วันฉลองครบรอบการแต่งงานปีที่สามสิบเอ็ด ลูกๆ ถามพ่อว่าให้ของขวัญอะไรแก่แม่ แม่เป็นคนตอบว่า "เราตกลงจะให้ของขวัญร่วมกันสำหรับบ้าน เป็นการสมัครสมาชิกเคเบิลที่เพิ่มจำนวนช่องขึ้นอีก"

เคย์รู้สึกอึดอัดกับชีวิตแต่งงานที่เปลี่ยนไปในรูปนี้ ขณะที่อาร์โนลด์ยังเชื่อว่าไม่มีอะไรผิดปกติกับชีวิตคู่ที่ดูราบรื่นดี อยู่ร่วมบ้านกันทุกวัน เห็นหน้ากันทุกเมื่อเชื่อวันโดยไม่มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอะไร 
เขาไม่เข้าใจเลยว่าเคย์ต้องการอะไรกับการกวนน้ำให้ขุ่นขึ้นมานี้



เคย์สมัครเข้าการบำบัดชีวิตสมรสกับ ดร.เฟลด์ (สตีฟ คาเรลล์) จิตแพทย์ที่มีคลินิกอยู่ในเมืองเล็กๆ ในรัฐเมน ค่าบำบัดปัญหาชีวิตคู่กับหมอคนนี้แพงลิบเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เธอควักกระเป๋าจ่ายจากเงินสะสมส่วนตัว เพราะแน่ใจว่านักบัญชีที่ละเอียดลออและระมัดระวังในการใช้จ่ายอย่างอาร์โนลด์จะต้องไม่ยอมเสียเงินขนาดนั้นเพื่อการนี้แน่ๆ 
แต่กระนั้น กว่าเธอจะอ้อนวอนแกมบังคับให้สามีเดินทางไปร่วมการบำบัดในครั้งนี้ได้ ก็แทบไม่ต้องมาดูดำดูดีกันแล้ว เธอต้องยื่นคำขาด พร้อมทั้งยื่นตั๋วเครื่องบินให้และบอกว่า ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีเขา เธอก็จะเดินทางไปอยู่ดี 
แน่นอนว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะพลิกชีวิตของคนทั้งคู่ไปเลย
ด้วยฝีมือการแสดงที่เยี่ยมยอดตามเคยของ เมอริล สตรีป รวมทั้งความคร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์ของ ทอมมี ลี โจนส์ ทำให้เรื่องราวมีสีสัน
และประกายของความจริงลึกๆ ในชีวิต และสองคนนี้ก็เป็นตัวนำหลักที่เดินเรื่องอยู่ในทุกฉากทุกตอน

สตีฟ คาเรลล์ นักแสดงตลก รับบทที่ตรงข้ามกับแนวตลกของเขา เป็นจิตแพทย์ที่นั่งบนเก้าอี้ในห้องบำบัด หน้าตาย พูดคุยตั้งคำถาม เค้นคำตอบและให้คำแนะนำที่น่ากระดากกระเดื่องสำหรับคนไข้ตลอดเรื่อง เว้นแต่ในช่วงเครดิตรายชื่อทีมงานตอนท้ายเรื่องที่เขาเข้ามาสร้างสีสันในงานให้สัตยาบันอีกครั้งของคู่แต่งงาน
โทนของหนังดูจะแกว่งสลับไปมาอยู่ระหว่างดรามากับคอเมดี บางช่วงก็เป็นจริงเป็นจัง
บางช่วงก็ดูผ่อนคลายเบาสมอง ซึ่งอย่างหลังนี้น่าจะเป็นแนวถนัดของผู้กำกับฯ เดวิด แฟรงเคิล มากกว่า ในแนวคอเมดีที่เขาเคยทำงานกับ เมอริล สตรีป มาก่อนหน้านี้แล้วในเรื่อง The Devil Wears Prada ที่มี แอนน์ แฮธาเวย์ เป็นนางเอก

เมอริล สตรีป เป็นนักแสดงหญิงฝีมือดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ก็ว่าได้ ถ้าจะตัดสินกันจากจำนวนรางวัลที่เธอได้รับและจำนวนการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล หนังที่เธอเลือกบทเล่นจึงน่าดูทุกเรื่อง โดยเฉพาะเมื่อเป็นบทนำ ไม่ใช่บทสมทบ อย่างนี้ก็ยิ่งไม่น่าพลาด


ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะไม่ตรงกับชีวิตของคนทุกคน แต่ก็จะมีบางแง่บางมุมที่หนังสัมผัสกับอารมณ์ลึกๆ ด้านใดด้านหนึ่งของคุณ 
การสำรวจลึกๆ ลงไปในความต้องการของมนุษย์ ที่จิตแพทย์เก่งๆ สามารถล้วงควักออกมาได้นั้น อาจเผยให้เรารู้จักตัวตนของมนุษย์ได้ดีขึ้น

อย่างเช่นที่เคย์ตอบคำถามของจิตแพทย์ผู้ให้การบำบัดต่อหน้าสามี เธอบอกว่าอยู่ด้วยกันมานานจนไม่ได้พูดจาสื่อสารถึงความต้องการของกันและกันอีกแล้ว เธอบอกว่า "เขาเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง...แต่ฉัน...ฉันเหงาเหลือเกินเลย แล้วการที่เราอยู่กับใครสักคน เวลาที่เราไม่ได้อยู่กับเขาจริงๆ  มัน....มัน...ฉันคิดว่าฉันอาจจะเหงาน้อยกว่านี้...ถ้าอยู่คนเดียว"  เห็นหรือยังว่าความต้องการของมนุษย์มันช่างซับซ้อนซ่อนเงื่อนเหลือเกิน ไม่ได้ตรงไปตรงมาเหมือนไม้บรรทัดซะเมื่อไหร่

มีนักแสดงที่เป็นที่รู้จักมักคุ้นร่วมแสดงอีกสองคน คือ เอลิซาเบธ ชู ที่เล่นเป็นบาร์เทนเดอร์ ว่ากันว่าบาร์เทนเดอร์เป็นอาชีพที่คล้ายจิตแพทย์ เพราะเป็นที่ระบายความทุกข์ของคนที่เข้าไปดับทุกข์ด้วยการดื่ม เลยได้รู้เรื่องราวต่างๆ ของคนมากมายหลายระดับ จึงเป็นพวกที่เข้าใจความเป็นไปของโลกได้ดี 
ส่วนอีกคนที่โผล่หน้ามาให้เห็นแค่แวบเดียว คือ มิมี รอเจอร์ส เป็นเพื่อนบ้านคนสวยที่จูงหมาเดินทุกวัน และเข้ามามีบทบาทอยู่ในชีวิตคู่ของเคย์กับอาร์โนลด์ อย่างที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับสามีภรรยาคู่นี้ด้วยเลย

ช่วงนี้ดูแต่หนังแอ็กชั่นล้างผลาญแบบหูดับตับไหม้ต่อเนื่องกันมาหลายต่อหลายเรื่องแล้ว จนหูตาชาชินกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นบนจอจนออกจะเบื่อแล้ว การได้เปลี่ยนมาดูเรื่องราวดรามาในชีวิตของผู้คนที่เราสามารถพบเห็นและรู้จักได้ในโลกจริง
นับเป็นความเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีทีเดียว



.