http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-09-26

THE INTOUCHABLES “มิตรภาพบนความแตกต่าง” โดย นพมาส แววหงส์

.

THE INTOUCHABLES  “มิตรภาพบนความแตกต่าง”
โดย นพมาส แววหงส์  คอลัมน์ ภาพยนตร์
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1675 หน้า 87


กำกับการแสดง Olivier Nakache และ Eric Toledano 
นำแสดง Fran'ois Cluzet
Omar Sy
Audrey Fleuret



The Intouchables เป็นปรากฏการณ์ของภาพยนตร์ฝรั่งเศสที่ถล่มทลายบ็อกซ์ออฟฟิศ ทั้งในประเทศฝรั่งเศสเองและนานาชาติ
ว่ากันว่ารายได้ในฝรั่งเศสจะเป็นรองก็แต่หนังที่ยังครองรายได้สูงสุดตลอดกาลคือ Titanic เท่านั้น
 
หนังเรื่องนี้อ้างว่ามีที่มาจากเรื่องราวในชีวิตจริง แถมยังแทรกภาพของบุคคลในชีวิตจริงที่เป็นต้นแบบของเรื่องราวในหนังเอาไว้ในส่วนเครดิตตอนท้ายเรื่องอีกด้วย
เพียงแต่ว่าเชื้อชาติของบุคคลในเรื่องจริงนั้นเป็นชาวอาหรับ ไม่ใช่คนผิวดำจากเซเนกัลอย่างที่อยู่ในภาพยนตร์


ดริส (โอมาร์ ไซ) เป็นคนผิวดำที่เกิดในเซเนกัล และเติบโตในปารีส โดยเป็นอันธพาลรายย่อยๆ เดินเข้าออกคุกเป็นเรื่องปกติธรรมดาในชีวิต และอาศัยเงินสวัสดิการสังคมเป็นเครื่องยังชีพ 
เขามาสมัครงานและรอการสัมภาษณ์คิวยาวกับนายจ้างคนหนึ่ง โดยไม่ได้หวังจะได้งานนี้ เพียงแค่ขอลายเซ็นและคำปฏิเสธไม่รับเข้าทำงาน เพื่อนำไปขอเงินสงเคราะห์ของรัฐเท่านั้น
แต่ความกล้าบ้าบิ่นและเถรตรงของดริส ทำให้ฟิลิปป์ (ฟรังซัวส์ คลูเซต์) รับเขาเข้าทำงานด้วยโดยให้ทดลองปฏิบัติงานไปก่อน
หน้าที่ของดริสคือการดูแลช่วยเหลือคนพิการ

คนพิการคนนั้นก็คือนายจ้างโดยตรงของเขา
ฟิลิปป์เป็นอัมพาตขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไม่ได้ตั้งแต่คอลงมา จากอุบัติเหตุในกีฬาพาราไกลดิง หรือร่อนร่มเหินหาว 
มิไยที่เพื่อนฝูงและคนรอบข้างจะทักท้วงและไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจเลือกลูกจ้างของฟิลิปป์ครั้งนี้ ด้วยประวัติอาชญากรของดริส แต่ฟิลิปป์ก็ยังให้โอกาสและคิดว่าดริสจะทำหน้าที่ดูแลช่วยเหลือเขาได้ดี เพราะเป็นหนุ่มร่างใหญ่ล่ำสันแข็งแรง สามารถอุ้มเขาตัวลอยได้สบายๆ


ดริสย้ายเข้าพำนักในคฤหาสน์ใหญ่โตหรูหราของฟิลิปป์ผู้มั่งคั่ง และเริ่มงานที่เขาไม่ได้รับการอบรมฝึกฝนมาก่อนเลย
นี่คือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพของชายสองคนที่แตกต่างกันอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ทั้งด้านฐานะ เชื้อชาติ ภูมิหลัง ชาติวุฒิ วัยวุฒิ คุณวุฒิ การศึกษา สังคม ความเป็นอยู่ ทัศนคติและรสนิยม 
เป็นมิตรภาพบนความแตกต่างสุดขั้วอย่างไม่น่าเป็นไปได้ แต่ก็น่าอบอุ่นใจ 
ทั้งสองฝ่ายต่างเติมเต็มให้กันและกันในส่วนที่อีกฝ่ายหนึ่งพร่องหรือขาดหาย

ดริสก้าวเข้ามาเรียนรู้ชีวิตอันหรูหราของชนชั้นสูงที่เขาไม่เคยมีโอกาสสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นบ้านช่องอันอัครฐาน สภาพความเป็นอยู่แบบผู้ดี การขับรถหรูที่มีสมรรถนะสูง การเสพศิลปะ และการเล่นกีฬาอันท้าทาย 
ขณะเดียวกันฟิลิปป์ก็เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน การสั่งสอนลูกไม่ให้เอาแต่ใจตัวจนเสียผู้เสียคน การจัดการกับผู้คนที่เข้ามาระรานสิทธิของเขา 
และยังกลับมาใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพอีกครั้ง หลังจากตกอยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรกับชีวิตที่เหมือนตกอยู่ในความตายทั้งเป็น



หนังเป็นดรามา-คอเมดีที่เป็นสูตรสำเร็จของความสำเร็จที่สามารถเอาชนะใจคนดูในวงกว้าง และด้วยฝีมือของนักแสดงชั้นดี ก็สามารถวางบทบาทที่กินใจผู้คนได้ 
แม้ว่าการวางลักษณะตัวละครจะแกว่งไปมาอยู่พอดู
อย่างเช่น ดริสผู้ชอบขับรถเร็วจนถูกตำรวจเรียกตัว ทำท่ากลัวหัวหดต่อการร่อนเหินเวหาอันไม่ได้ผาดโผนอะไรเลย แถมยังมีครูฝึกคอยประคองให้ความช่วยเหลืออยู่ข้างหลังอีกต่างหาก 
มุขหลายมุขจึงเป็นมุขเพื่อสร้างรอยยิ้มหรือเรียกเสียงฮาเท่านั้น แต่ไม่ได้ออกมาจากตัวละครจริงๆ เรียกว่าเป็น "cliche" เสียแหละมาก ถึงจะเป็น "cliche" ที่เป็นสูตรรับประกันความสำเร็จว่าคนดูจะต้องตอบสนองก็ตาม

ดูอย่างเรื่องภาพเขียนแอ็บสแตร็กต์ที่ฟิลิปป์ชื่นชม และดริสดูแคลนว่าเป็นเพียงผ้าใบเปรอะรอยสีก็ได้ นี่ก็เป็น"คลิเช"ที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ใครนำมาใช้ทีไรก็รับประกันผลทุกที โดยเฉพาะเมื่อดริสผู้ไม่เคยได้รับการฝึกฝนทางศิลปะมาก่อนเลย ลองวาดภาพแอ็บสแตร็กต์ภาพแรกในชีวิตของเขา และฟิลิปป์นำไปบอกขายเพื่อน ได้ราคาสูงราวกับวาดด้วยฝีมือจิตรกรมีชื่อทีเดียว
ความน่าอบอุ่นใจของหนังคือมิตรภาพและความรักที่ทั้งสองเติมเต็มให้แก่กันและกัน และเป็นหนังที่เรียกรอยยิ้มและความน่าประทับใจได้


หนังประสบความสำเร็จเสียจนฮอลลีวู้ดทนไม่ไหว ต้องซื้อลิขสิทธิ์มาสร้างใหม่ในเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ดเอง 
ซึ่งเวอร์ชั่นที่พูดภาษาอังกฤษนี้จะออกหัวออกก้อยก็ยังไม่รู้เลย
เพราะยังอยู่ในระหว่างการดำเนินงาน 
และยังไม่มีรายละเอียดมากไปกว่านี้




.