http://BotKwamDee.blogspot.com...webblog เปิดเผยความจริงและกระแสสำนึกหลากหลาย เพื่อเป็นอาหารสมอง, แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการวิเคราะห์ความจริง, สะท้อนการเรียกร้องความยุติธรรมที่เปิดเผยแบบนิติธรรม, สื่อปฏิบัติการเสริมพลังเศรษฐกิจที่กระจายความเติบโตก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศสู่ประชาชนพื้นฐาน, ส่งเสริมการตรวจสอบและผลักดันนโยบายสาธารณะของประชาชน-เยาวชนในทุกระดับของกลไกพรรคการเมือง, พัฒนาอำนาจต่อรองทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะการปกครองท้องถิ่นและยกระดับองค์กรตรวจสอบกลไกรัฐของภาคสาธารณะที่ต่อเนื่องของประชาชาติไทย

2555-09-27

พิศณุ: ตระเวนหาเสียงหฤโหด2เดือน โอบามา-รอมนีย์ ดูแลสุขภาพอย่างไร

.
บทความของปี 2554 - แฟชั่นทานอาหารเจในหมู่ดาราฮอลลีวู้ด โดย พิศณุ นิลกลัด

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ตระเวนหาเสียงหฤโหด 2 เดือน โอบามา-รอมนีย์ ดูแลสุขภาพอย่างไร?
โดย พิศณุ นิลกลัด คอลัมน์ คลุกวงใน
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555 ปีที่ 32 ฉบับที่ 1675 หน้า 96


วันที่ 6 พฤศจิกายน คนอเมริกันจะเลือกตั้งประธานาธิบดี ช่วงนี้ทั้ง มิตต์ รอมนีย์ และ บารัค โอบามา มีโปรแกรมเดินทางหาเสียงแน่นเอี้ยด
ทุกสัปดาห์เว็บไซต์ของทำเนียบขาว whitehouse.gov อัพเดตตารางทำงานประจำสัปดาห์ของประธานาธิบดีโอบามาว่าแต่ละวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำมีกำหนดการอะไรบ้าง บางวันขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซ วัน หาเสียงถึง 3 รัฐ 
ดังนั้น การดูแลรักษาสุขภาพของประธานาธิบดีโอบาม่าและรอมนีย์จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหากเป็นไข้เจ็บคอออกหาเสียงไม่ได้ หรือร่างกายล้า สมองตื้อ พูดจาวกวนไม่รู้เรื่อง ก็อาจส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมซึ่งตอนนี้คู่คี่กันสุดขีด

ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์สร่วมกับ Ipsos ทำโพลสำรวจออนไลน์ระหว่างวันที่ 12-17 กันยายน พบว่าประธานาธิบดีโอบามามีคะแนนนำรอมนีย์ 48 ต่อ 43 
นอกจากคู่คี่ในเรื่องของคะแนนนิยมแล้ว สื่อมวลชนที่อเมริกายังบอกว่าประธานาธิบดีโอบามาและรอมนีย์เป็นคู่แข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ร่างกายฟิตดูดีคู่คี่กัน
ทั้งสองคนรูปร่างสูงโปร่งไร้พุง ประธานาธิบดีโอบามาสูง 185 เซนติเมตร หนัก 80 กิโลกรัม ส่วนรอมนีย์สูง 188 เซนติเมตร หนัก 89 กิโลกรัม

นักจิตวิทยาวิเคราะห์ว่ารูปร่างถือเป็นองค์ประกอบสำคัญอีกประการหนึ่งของภาพลักษณ์ผู้สมัครประธานาธิบดี เพราะหากปล่อยตัวให้อ้วนฉุ ก็อาจถูกคนอเมริกันมองว่าเป็นคนขี้เกียจ ชีวิตไร้ระเบียบ ไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำประเทศ 
ดังนั้น ประธานาธิบดีโอบามาและรอมนีย์ จึงดูเป็นคนที่รักษาตัวสุขภาพและรูปร่างของตัวเองอย่างเต็มที่

ประธาธิบดีโอบามานอนวันละเพียง 4 ชั่วโมง เมื่อตื่นก็เริ่มวันใหม่ด้วยการออกกำลังตอน 6 โมงเช้าสัปดาห์ละ 6 วันวันละ 45 นาที โดยสองวันจะเป็นการออกกำลังเรียกเหงื่อเช่นการวิ่ง ส่วนอีกสี่วันเป็นการยกน้ำหนัก และหากมีเวลาก็จะเล่นบาสเกตบอลซึ่งเป็นกีฬาโปรด 
เรื่องอาหาร ประธานาธิบดีโอบามายอมรับว่าชอบทานอาหารพวกจั๊งก์ฟู้ด เช่น พิซซ่า ไก่ทอด แต่เมื่ออายุมากขึ้นระบบการเผาผลาญไม่ดีเหมือนสมัยหนุ่ม ทำให้ต้องหันมาควบคุมการทานอาหารมากขึ้น โดยเวลาอยากทานของจุบจิบจะหลีกเลี่ยงการทานขนมหวาน เลือกทานพวกถั่วต่างๆ หรือผลไม้ เช่น กล้วย ส้ม ซึ่งจะมีเตรียมไว้บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันตลอดเวลาไว้ทานกันหิว ทำให้ไม่ต้องทานเยอะเวลาทานอาหารมื้อเย็น ส่วนอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพที่ไม่ชอบทานเลยคือ มายองเนส น้ำอัดลม และไอศกรีม

ส่วน รอมนีย์ เป็นคนชอบวิ่งจ๊อกกิ้งแต่ไหนแต่ไร วิ่งตามสวนสาธารณะวันละ 3 ไมล์ หรือประมาณ 5 กิโลเมตร แม้ตอนนี้จะยุ่งมากรอมนีย์ก็ยังวิ่งทุกวัน ด้วยเวลาจำกัดจึงต้องวิ่งสายพานเป็นส่วนใหญ่ โดยจะใช้เวลาวิ่งประมาณ 40 นาที ซึ่งเป็นเคล็ดลับในการรักษาหน้าท้องให้แบนราบแม้จะอายุ 65 ปีแล้ว 
เรื่องอาหารการกิน รอมนีย์มักทานอกไก่งวงซึ่งมีไขมันต่ำ โปรตีนสูง, ข้าว, บล็อกโคลี่ และดื่มน้ำเปล่า หรือ ไดเอ็ต โค้ก หากอยากทานพิซซ่าขึ้นมาก็จะดึงเนยแข็ง (ชีส) บนหน้าพิซซ่าออก หรือเวลาทานไก่ ก็จะดึงหนังออก 
รอมนีย์ดื่มน้ำตลอดเวลา โดยใส่ขวดน้ำขนาด 24 ออนซ์ (0.7 ลิตร) ที่ข้างขวดเขียนว่า Believe in America ซึ่งเป็นสโลแกนหาเสียงของเขา น้ำดื่มบีลีฟ อิน อเมริกานี้ขายทางเว็บไซต์ mittromney.com ในราคา 15 ดอลลาร์ หรือ 480 บาท รายได้ใช้ในกิจการหาเสียงของพรรครีพับลิกันโดยแต่ละวัน รอมนีย์จะดื่มน้ำจากขวดนี้ให้ได้วันละสี่ขวดเป็นอย่างน้อย

สำหรับ พอล ไรอัน คู่ชิงรองประธานาธิบดี ขึ้นชื่อในเรื่องการใส่ใจรักษาสุขภาพเป็นอย่างมาก เมื่อปี 2010 เคยให้สัมภาษณ์เรื่องการออกกำลังกายบอกว่าใช้ โปรแกรม พี ไนน์ตี้ เอ็กซ์ (P90X) ซึ่งเป็นดีวีดีออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมในอเมริกา โดยเป็นการออกกำลังกายที่ผสมผสานการยกน้ำหนัก โยคะ การวิ่ง และออกกำลังกายหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน สามารถดูดีวีดีออกกำลังที่บ้านวันละไม่เกินชั่วโมง สัปดาห์ละ 6 วัน รับประกันว่าจะสร้างกล้ามหน้าท้องเป็นลูกๆ หรือ ซิก แพ็กภายใน 90 วัน 
พอล ไรอัน บอกว่าตัวเองสูง 185 เซนติเมตร หนัก 74 กิโลกรัม ออกกำลัง ควบคุมอาหารเพื่อรักษาระดับไขมันในร่างกายให้อยู่ระหว่าง 6 ถึง 8 เปอร์เซ็นต์ โดยเล่าว่าตัวเองก่อนมาเล่นการเมืองเคยเป็นครูสอนออกกำลังกาย (Personal Trainer) มาก่อน เขาสนใจสุขภาพอย่างมาก หลังจากพ่อเสียชีวิตเพราะหัวใจวายตอนตัวเขาอายุเพียง 16 ปี

ข้างฝ่าย โจ ไบเด็น "รันนิ่ง เมต" ของโอบามาแม้วันนี้จะอายุ 69 เข้าไปแล้ว แต่ออกกำลังกายวิ่งบนสายพานเป็นประจำ ร่างกายจึงดูแข็งแรงเหมือนไม่ใช่ชายวัยใกล้ 70

นักการเมืองสูงอายุทุกชาติเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือมีการเมืองเป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้ดูหนุ่มกว่าวัย เลิกเล่นการเมืองเมื่อไหร่แก่ทันตาเห็นภายในไม่เกิน 2 ปี



+++
บทความของปี 2554

แฟชั่นทานอาหารเจในหมู่ดาราฮอลลีวู้ด
โดย พิศณุ นิลกลัด คอลัมน์ คลุกวงใน
ในมติชนสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 09 กันยายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 31 ฉบับที่ 1621 หน้า 96


ในแวดวงฮอลลีวู้ดทุกอย่างที่ทำต้องตามแฟชั่นไปซะทั้งหมด ไม่เฉพาะแต่เรื่องการแต่งกาย แต่รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ การดำรงชีวิต อาหารการกิน และ ฯลฯ
เทรนด์ที่กำลังมาแรงในฮอลลีวู้ดและเหล่าคนดังในตอนนี้คือแฟชั่นทานอาหารเจ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่าวีแกน (Vegan) เหตุผลนั้นก็ทั้งเพื่อรักษาสุขภาพ และไม่ทำร้ายสัตว์ 
วีแกนต่างจากเวเจ็ทเทเรียน (Vegetarian) ตรงที่วีแกนไม่ทานอาหารที่มาจากสัตว์ทุกชนิดรวมถึง นม ไข่ เนย วีแกนที่เคร่งจัดไม่ทานแม้กระทั่งน้ำผึ้ง ยีสต์ ไม่สวมเสื้อผ้าที่ทำจากสัตว์ ไม่สวมรองเท้าหนัง ไม่ถือกระเป๋าหนัง ไม่ใช้เครื่องสำอางที่ทำจากไขมันสัตว์หรือทดลองกับสัตว์
วีแกนที่เคร่งจัดจะไม่ดูหนังที่มีสัตว์แสดงเพราะถือว่าทรมานสัตว์


ส่วนเวเจ็ทเทเรียนนั้นไม่ทานเนื้อสัตว์ แต่ยังทานไข่นมเนย 
หากเทียบแล้ววีแกนคือคนทานเจ ส่วนเวเจ็ทเทเรียนคือคนทานมังสวิรัติ


แฟชั่นการทานอาหารของคนดังในฮอลลีวู้ดนั้นสมัยก่อนย้อนไปประมาณ 10 ปี เริ่มจากทานอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำที่เรียกว่า โลว์ คาร์บ ไดเอ็ต (Low Carb) คือลดอาหารพวกขนมปัง พาสต้า หรือข้าว แต่เน้นทานอาหารโปรตีนสูงแทน เช่น เนื้อ ไก่ ปลา 
หลังจากนั้นแฟชั่นต่อมาคือไม่ทานเนื้อแดง ทำให้อกไก่ย่างได้รับความนิยมมาก 
แฟชั่นต่อมาคือการเป็นมังสวิรัติหรือเวเจ็ทเทเรียน 
และล่าสุดคือวีแกน หรือทานเจ

คนดังที่เป็นวีแกน เช่น นาตาลี พอร์ตแมน นางเอกสวยหวานเจ้าของรางวัลออสการ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมปีที่แล้ว เธอเป็นมังสวิรัติตั้งแต่เด็กก่อนจะยกระดับเป็นวีแกนเมื่อปี 2009 ยกเว้นเมื่อตอนตั้งท้องเมื่อปลายปีที่แล้วที่เธอบอกว่ากลับมาเป็นมังสวิรัติเพราะต้องทานนมกับไข่เพื่อลูกในท้อง เธอบอกว่าที่ไม่ทานเนื้อสัตว์เพราะเชื่อว่าสัตว์ก็มีชีวิตจิตใจ เธอเป็นคนรักสัตว์จึงไม่ทานเนื้อสัตว์ 
ไมก์ ไทสัน เป็นวีแกนมาสองปีแล้ว 
ไทสันเป็นคนรักนกพิราบ เลี้ยงนกพิราบเยอะ เมื่อเดือนเมษายน ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับการรณรงค์เป็นวีแกน โดยมีสโลแกนว่า Love Animals, Don"t Eat Them หรือ รักสัตว์ อย่ากินพวกเขา 
ไทสันบอกว่าตัดสินใจเป็นวีแกนเพราะต้องการดูแลสุขภาพ หลังจากเป็นวีแกนแล้วจิตใจสงบลงมาก เลยคิดว่าสมัยก่อนที่เกรี้ยวกราดฉุนเฉียวคงเป็นเพราะทานเนื้อและอาหารสังเคราะห์มากไป  
หลังจากเป็นวีแกนไทสันลดน้ำหนักลงได้ถึง 55 กิโลกรัม!

อดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน วัย 65 ปี มีปัญหาโรคหัวใจและเข้ารับการผ่าตัดบายพาสเมื่อปี 2004 จากนั้นก็ควบคุมดูแลเรื่องอาหาร 
ต่อมาเมื่อปีที่แล้วเข้ารับการผ่าตัดหัวใจอีกรอบ ทำให้ตัดสินใจเป็นวีแกนเพื่อรักษาสุขภาพ ซึ่งองค์กรพิทักษ์สัตว์ (PETA)ได้ยกย่องให้คลินตันเป็น Person of the Year ประจำปี 2010 โดยบอกว่าการที่คลินตันเป็นวีแกนช่วยต่ออายุให้สัตว์ปีละ 200 ตัว 
คลินตันบอกว่าเขามีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวมาตลอดชีวิต ชอบทานชีสเบอร์เกอร์และบาร์บีคิวจึงตัดสินใจเป็นวีแกน ไม่ทานเนื้อนมไข่ ทานไขมันน้อยที่สุด ช่วยให้ลดน้ำหนักลงได้มาก ภายในปีเดียวลดน้ำหนักลงได้ถึง 15 กิโลกรัม 
เขาไม่เคยรู้สึกดีอย่างนี้มาก่อนในชีวิต



เมื่อเดือนสิงหาคม University of North Texas ได้เปิดโรงอาหารในมหาวิทยาลัย (Cafeteria) ที่เสิร์ฟอาหารวีแกนล้วนๆ สร้างความประหลาดใจให้กับคนทั่วไปเป็นอย่างมากเพราะรัฐเท็กซัสเป็นผู้นำในการทำฟาร์มโคนมโคเนื้อ 
โรงอาหารนี้ชื่อว่า มีน กรีนส์ (Mean Greens) ซึ่งเป็นชื่อทีมอเมริกันฟุตบอลของมหาวิทยาลัย โดยมีความหมายว่าสีเขียวสุดเหี้ยม แต่ในที่นี้เป็นการเล่นคำ โดย Green นั้นมีความหมายอีกอย่างว่า ผักใบเขียว โดยเสิร์ฟอาหารปลอดเนื้อสัตว์ นม ไข่ ให้นักศึกษา ซึ่งนักศึกษาก็ชอบเป็นอย่างมากเพราะได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ทำให้น้ำหนักขึ้น เพราะที่อเมริกามีคำว่าเฟรชแมน ฟิฟทีน (Freshman Fifteen) ซึ่งหมายถึงนักศึกษาปี 1ส่วนใหญ่น้ำหนักตัวจะขึ้น 15 ปอนด์ หรือ 7 กิโลกรัม เพราะตื่นตาตื่นใจกับอาหารในมหาวิทยาลัย เนื่องจากอาหารในมหาวิทยาลัยอเมริกาส่วนใหญ่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ที่มีแต่จั๊งก์ฟู้ด 
ที่มหาวิทยาลัยมีโรงอาหารทั้งหมด 5 แห่ง Mean Greens เป็น 1 ใน 5 โดยทางมหาวิทยาลัยตั้งโรงอาหารวีแกนขึ้นมาเพราะความนิยมในการทานวีแกนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 
เมนูอาหารมีประมาณวันละ 20 อย่าง เช่น ซุปแอสปารากัส ซูชิผัก ไอศกรีมนมถั่วเหลือง


อาหารมีความสำคัญต่อสุขภาพและการเกิดโรคภัยไข้เจ็บ การรู้เรื่องอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจึงเป็นที่สนใจของประชาชนโดยทั่วไป
เภสัชกรหญิงจงจิตร อังคหะวานิช อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แนะนำว่าการกินอาหารมังสวิรัติเป็นวิธีการกินอย่างหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพสำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้แก่ คนอ้วนผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง นิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งทวารหนัก 
การกินมังสวิรัติมีประโยชน์กับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่ายท้องผูกบ่อยๆ เพราะอาหารประเภทผักผลไม้มีใยอาหารอยู่มาก ช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระและกระตุ้นการขับถ่าย 
แต่การกินอาหารมังสวิรัติอย่างไม่ถูกต้องทำให้เกิดการขาดสารอาหารได้ เช่น การขาดธาตุเหล็กและวิตามินบี 12 ดังนั้น การจัดรายการอาหารจึงเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าเกรงว่าจะได้รับสารอาหารไม่พอเพียงก็ควรกินนมและไข่ด้วย สำหรับเด็กอ่อนเด็กเล็กวัยรุ่นหญิงมีครรภ์และหญิงให้นมบุตรจำเป็นที่จะต้องได้รับนมและไข่เสริมจึงจะได้รับสารอาหารเพียงพอและมีการเจริญเติบโตได้ดี

สัปดาห์นี้เขียนเรื่องจริงจังไปหน่อยไหมครับ?



.